หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ต้องผ่าตัดไหม? ตอบจบที่นี่

คลินิกรักษา กระดูกทับเส้นประสาท ต้องผ่าตัดไหม

ความจริงที่ต้องรู้

90% ของคนที่มีหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด! เมื่อได้ยินคำว่า “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” หลายคนรู้สึกหวาดกลัวและคิดทันทีว่าต้องผ่าตัดแน่ๆ แต่ความจริงแล้ว การผ่าตัดควรเป็นทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกแรก ในบทความนี้เราจะเปิดเผยข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับการรักษากระดูกทับเส้น และวิธีการรักษากระดูกทับเส้นไม่ผ่าตัด

หากคุณกำลังทนกับอาการปวดหลังร้าวลงขา อาการชาบริเวณขา หรือมีความเจ็บปวดที่รบกวนชีวิตประจำวัน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเลือกการรักษาที่หลากหลายและตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท คืออะไร?

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า “Herniated Disc” หรือ “Disc Prolapse” เป็นภาวะที่หมอนรองกระดูก (Intervertebral Disc) ที่อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละชิ้นเสื่อมสลายหรือเปลี่ยนรูปร่าง จนไปกดทับเส้นประสาทที่อยู่ใกล้เคียง

โครงสร้างของหมอนรองกระดูก

หมอนรองกระดูกประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก:

  • ส่วนกลาง (Nucleus Pulposus) – เป็นเหมือนเจลนุ่มๆ ที่มีน้ำมาก ทำหน้าที่ดูดซับแรงกระแทก
  • ส่วนนอก (Annulus Fibrosus) – เป็นเส้นใยแข็งแรงที่ห่อหุ้มส่วนกลางไว้

เมื่อมีการเสื่อมหรือบาดเจ็บ ส่วนนอกจะแตกหรือฉีกขาด ทำให้ส่วนกลางล้นออกมากดทับเส้นประสาท ก่อให้เกิดอาการต่างๆ ตามมา

อาการของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

อาการหลักที่พบบ่อย:

  1. ปวดหลังร้าวลงขา – อาการปวดเริ่มจากหลังส่วนล่าง แล้วลุกลามร้าวลงไปตามขา อาจถึงเท้า
  2. อาการชาตามขา – รู้สึกชาหรือเสียวซ่าตามแนวเส้นประสาทที่ถูกกดทับ
  3. ขาอ่อนแรง – รู้สึกว่าขาอ่อนแรง เดินไม่มั่นคง หรือยกเท้าไม่ขึ้น
  4. ปวดมากขึ้นเมื่อไอหรือจาม – เนื่องจากการไอจามเพิ่มแรงกดภายในช่องท้อง
  5. ปวดลดลงเมื่อนั่งหรือโน้มตัวไปข้างหน้า – ท่านี้ช่วยลดแรงกดทับที่เส้นประสาท

อาการแบ่งตามตำแหน่งที่เกิด:

หมอนรองกระดูกคอทับเส้น:

  • ปวดคอบ่าไหล่
  • ชาแขน มือ
  • ปวดหัวด้านหลัง
  • เวียนหัว

หมอนรองกระดูกหลังส่วนล่างทับเส้น:

  • ปวดหลังร้าวลงขา
  • ชาขา เท้า
  • ปวดสะโพกร้าวลงขา
  • ปวดสลักเพชร

เมื่อไหร่ที่จำเป็นต้องผ่าตัดจริงๆ?

การผ่าตัดจำเป็นเฉพาะในกรณีที่มี “Red Flag Signs” ดังนี้:

สัญญาณที่ต้องผ่าตัดด่วน:

  • Cauda Equina Syndrome – ชาบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก, ปัสสาวะไม่ออกหรือกลั้นไม่ได้
  • Progressive Motor Weakness – ขาอ่อนแรงลงอย่างต่อเนื่องและรุนแรง
  • อาการไม่ดีขึ้นหลังรักษา 6-12 สัปดาห์
  • ปวดรุนแรงไม่สามารถควบคุมได้ด้วยยา

หากไม่มีอาการเหล่านี้ คุณมีเวลาและตัวเลือกในการรักษาแบบอื่นก่อน

คลินิกรักษากระดูกทับเส้น: ทางเลือกการรักษา

การเลือกคลินิกรักษากระดูกทับเส้น ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะจะได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและแผนการรักษาที่เหมาะสมกับอาการของแต่ละคน

การเลือกคลินิก:

  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง – มีความเชี่ยวชาญด้านกระดูกและเส้นประสาท
  • ประสบการณ์สูง – รักษาผู้ป่วยจำนวนมากและมีอัตราความสำเร็จสูง
  • เทคโนโลยีทันสมัย – มีอุปกรณ์การตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ทันสมัย
  • การรักษาแบบบูรณาการ – ผสมผสานวิธีการรักษาหลายแบบ
  • การติดตามผลอย่างใกล้ชิด – มีการติดตามและปรับแผนการรักษา

5 วิธีรักษากระดูกทับเส้น ไม่ผ่าตัด

1. การฝังเข็ม (Acupuncture)

การฝังเข็มที่ผสมผสานความรู้จากการแพทย์แผนจีนและการแพทย์แผนปัจจุบัน เป็นวิธีการรักษากระดูกทับเส้นไม่ผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพ

กลไกการทำงาน:

  • กระตุ้นการหลั่ง Endorphins ตามธรรมชาติของร่างกาย
  • ลดการอักเสบบริเวณเส้นประสาทที่ถูกกดทับ
  • เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังหมอนรองกระดูก
  • คลายความตึงของกล้ามเนื้อรอบๆ กระดูกสันหลัง

ข้อดีของการฝังเข็ม:

  • ไม่มีผลข้างเคียง
  • สามารถทำร่วมกับการรักษาอื่นได้
  • ลดการใช้ยาแก้ปวด
  • เห็นผลค่อนข้างเร็ว (2-3 ครั้งแรก)

2. การใช้ยาแบบ “ให้ครบ ให้ถูก ให้ถึง”

การใช้ยาแก้ปวดและต้านการอักเสบอย่างถูกต้องเป็นส่วนสำคัญของการรักษากระดูกทับเส้นไม่ผ่าตัด

หลักการใช้ยาที่แนะนำ:

  • ให้ครบ – ใช้ยาครบตามที่แพทย์สั่ง ไม่ทานๆหยุดๆ เมื่ออาการดีขึ้น
  • ให้ถูก – เลือกยาที่เหมาะสมกับอาการ ถูกโรค และร่างกายของผู้ป่วย
  • ให้ถึง – ใช้ยาในปริมาณและระยะเวลาที่เพียงพอให้เกิดผล

3. อาหารเสริม เพื่อดูแลและป้องกัน

การใช้อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบที่เหมาะสมช่วยซ่อมแซมและบำรุงหมอนรองกระดูกได้

ส่วนประกอบสำคัญ:

  • Collagen Type II – เป็นองค์ประกอบหลักของหมอนรองกระดูก
  • Proteoglycans – ช่วยดึงน้ำเข้าหมอนรองกระดูก เพิ่มความยืดหยุ่น
  • Magnesium – ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความตึง
  • Vitamin D – ช่วยการดูดซึมแคลเซียม

4. การออกกำลังกายที่ถูกต้อง

เมื่ออาการปวดและการอักเสบดีขึ้นแล้ว การสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscles) และกล้ามเนื้อหลังให้แข็งแรงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อสร้างเกราะป้องกันธรรมชาติให้กับกระดูกสันหลัง ลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ

5. การปรับพฤติกรรม (Lifestyle Modification)

เรียนรู้การปรับท่าทางในชีวิตประจำวัน การความเสี่ยงต่างๆ เช่น การนั่ง, การยกของ, การนอน เพื่อลดแรงกดทับที่หมอนรองกระดูก

ทำไมต้องเลือกคลินิกหมอซัน?

คุณหมอซัน เป็นแพทย์วิสัญญีจากศิริราช มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านการระงับความปวดและการรักษา กระดูกทับเส้นไม่ผ่าตัด ด้วยประสบการณ์การรักษาผู้ป่วยมากกว่า 20,000 เคส

จุดเด่นของคลินิก:

  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ – วิสัญญีแพทย์ + ผู้เชี่ยวชาญการฝังเข็ม
  • การรักษาแบบบูรณาการ – ผสมผสาน 5 เสาหลัก
  • ประสบการณ์การรักษา – รักษาผู้ป่วยมามากกว่า 20,000+ เคส
  • อัตราความสำเร็จ – ผลลัพท์ 9 ใน 10 อาการดีขึ้นกว่า 60-70% ตั้งแต่ครั้งแรก
  • การติดตามผลใกล้ชิด – มีระบบติดตามผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “การรักษากระดูกทับเส้น”

Q: หมอนรองกระดูกทับเส้นหายเองได้หรือไม่?

A: ได้ค่ะ หมอนรองกระดูกที่ล้นออกมาสามารถถูกดูดซับกลับเข้าไปได้เองตามธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้าได้รับการรักษาที่เหมาะสม

Q: การรักษากระดูกทับเส้นใช้เวลานานแค่ไหน?

A: โดยเฉลี่ยใช้เวลา 6-12 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและการตอบสนองต่อการรักษา

Q: สามารถทำงานได้ปกติระหว่างการรักษาหรือไม่?

A: ได้ค่ะ การรักษาแบบไม่ผ่าตัดไม่ต้องหยุดงาน เพียงแต่หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ และลดความเสี่ยงต่างๆ

บทสรุป: ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

การมีหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องผ่าตัดเสมอไป การเลือกคลินิกรักษากระดูกทับเส้นที่เชี่ยวชาญและการรักษากระดูกทับเส้นไม่ผ่าตัด เป็นอีกทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

แต่ถ้าอาการปวดสะโพก ปวดหลัง หมอนรองกระดูกทับเส้น เป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ แนะนำให้รักษาที่ต้นเหตุ

ด้วยการมาปรึกษาพบแพทย์โดยด่วน ก่อนที่จะต้องผ่าตัด 

ติดต่อขอคำปรึกษา

  • Facebook: หมอซัน DrSUN
  • Line Official: @drsun
  • โทร: 095-519-4424

อ้างอิงและแหล่งข้อมูล

Effectiveness of Acupuncture for Chronic Low Back Pain

  • Archives of Internal Medicine, 2018
  • การฝังเข็มมีประสิทธิภาพในการลดอาการปวดหลังเรื้อรัง 65-80%

American Academy of Orthopaedic Surgeons (AAOS)

  • Clinical Practice Guidelines for Lumbar Disc Herniation, 2022
Share this
Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on linkedin
LinkedIn