
หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์ “ปวดสะโพกร้าวลงขา” อาการที่ไม่ใช่แค่ความเจ็บปวดธรรมดา แต่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้คุณเป็นโรคนี้ พร้อมแนะนำวิธีป้องกันและดูแลตัวเอง
พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรระวัง
1. การนั่งทำงานเป็นเวลานาน
- นั่งติดต่อกันนานเกิน 2 ชั่วโมง
- นั่งในท่าที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
- ไม่มีการลุกเดินหรือยืดเส้นยืดสาย
2. การยกของหนักไม่ถูกวิธี
- ก้มยกของโดยไม่ย่อเข่า
- ยกของหนักเกินกำลัง
- บิดตัวขณะยกของ
3. การนอนผิดท่า
- นอนในท่าที่กดทับเส้นประสาท
- ใช้ที่นอนที่นุ่มหรือแข็งเกินไป
- ไม่มีหมอนรองหลังหรือขาที่เหมาะสม
4. การขาดการออกกำลังกาย
- กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวอ่อนแอ
- ขาดความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ
- น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน
อาการที่ควรระวังและพบแพทย์
อาการเบื้องต้น
- ปวดบริเวณสะโพก
- อาการร้าวลงขา
- ชาบริเวณต้นขาหรือน่อง
- เดินลำบาก
อาการที่ต้องพบแพทย์ด่วน
- ปวดรุนแรงจนรบกวนการนอน
- มีอาการชาร่วมกับกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ปวดร่วมกับมีไข้
- กลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้
วิธีป้องกันและดูแลตัวเอง
1. ปรับพฤติกรรมการทำงาน
- ลุกเดินทุก 1-2 ชั่วโมง
- จัดท่าทางการนั่งให้ถูกต้อง
- ใช้เก้าอี้ที่รองรับหลังอย่างเหมาะสม
2. การออกกำลังกายที่เหมาะสม
- ยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำ
- เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลาง
- ออกกำลังกายแบบไม่กระแทก เช่น ว่ายน้ำ หรือ เดิน
3. การดูแลในชีวิตประจำวัน
- รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- เลือกรองเท้าที่เหมาะสม
- ใช้ท่านอนและที่นอนที่เหมาะสม
ทางเลือกในการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด
หลายคนกังวลเมื่อมีอาการปวดสะโพกร้าวลงขาว่าต้องผ่าตัด แต่ปัจจุบันมีวิธีการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด เช่น:
การรักษาแบบองค์รวม
- การฝังเข็ม: ช่วยบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบ
- การทานยาตามแผนการรักษา: ยาที่ออกฤทธิ์ตรงจุดและปลอดภัย
- การรับประทานอาหารเสริม: เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและข้อต่อ บรรเทาอาการขัดตึงและชะลอความเสื่อม
- การออกกำลังกาย: เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง
- การลดความเสี่ยง: หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดอาการเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
สรุป
อาการปวดสะโพกร้าวลงขาเป็นปัญหาที่สามารถป้องกันและรักษาได้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ร่วมกับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงและบรรเทาอาการได้ หากมีอาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเสมอไป
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
- ไม่ละเลยอาการปวดเรื้อรัง
- เลือกวิธีการรักษาที่เหมาะกับตัวเอง
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
แต่ถ้าอาการปวดเข่า เข่าเสื่อม เป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ แนะนำให้รักษาที่ต้นเหตุ
ด้วยการมาปรึกษาพบแพทย์โดยด่วนก่อนที่จะต้องผ่าตัด





