ปัจจุบันโรคกระดูกคอเสื่อมเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่คนทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์และใช้มือถือเป็นเวลานาน หากคุณกำลังประสบปัญหาปวดคอ เคลื่อนไหวลำบาก หรือกังวลว่าอาการจะรุนแรงขึ้น บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุ การรักษา และสิ่งสำคัญคือ อาหารประเภทใดที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้อาการกำเริบ
กระดูกคอเสื่อมคืออะไร
กระดูกคอเสื่อม หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า Cervical Spondylosis เป็นภาวะที่กระดูกและโครงสร้างรอบกระดูกคอเสื่อมสภาพไปตามอายุหรือจากการใช้งานผิดท่า กลไกการเกิดโรคเริ่มต้นจากการเสื่อมของหมอนรองกระดูก กระดูกงอก การสะสมของหินปูนที่ข้อต่อและเอ็นรอบคอ จนทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทหรือไขสันหลัง
อาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยกระดูกคอเสื่อม ได้แก่:
- ปวดคอและปวดตึงต้นคอ
- เคลื่อนไหวคอลำบาก คอติด ก้มเงยไม่สะดวก
- ปวดร้าวไปแขน สะบัก หรือหลังทอย
- ชาที่แขนหรือมือ
- กล้ามเนื้อกระตุก
- มีเสียงป๊อปเมื่อขยับคอ
- ในระยะรุนแรงอาจมีอาการอ่อนแรง ขาดความรู้สึก หรือทรงตัวไم่ได้
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของกระดูกคอเสื่อม
การเกิดกระดูกคอเสื่อมมีสาเหตุหลากหลาย โดยปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่:
- อายุที่เพิ่มขึ้น: อัตราการเป็นโรคมากขึ้นตามวัย โดยเฉพาะในผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปี
- การใช้คอในท่าที่ผิด: เช่น ก้มเล่นมือถือ นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ในท่าที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน
- การประสบอุบัติเหตุ: อุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบต่อบริเวณคอ
- โรคประจำตัวหรือพันธุกรรม: ที่กระทบต่อข้อและกระดูก
- น้ำหนักเกิน: เพิ่มแรงกดต่อข้อคอ
- การไม่ออกกำลังกาย: ทำให้กล้ามเนื้อรอบคออ่อนแอ
ผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
กระดูกคอเสื่อมส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในหลายด้าน การนั่งทำงานเป็นเวลานานมักทำให้เกิดอาการปวดและตึงคอ การเดินหรือออกกำลังกายบางท่าอาจรู้สึกไม่คล่องตัวและมีอาการปวดร้าว
สำหรับผู้ที่ต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออ่านหนังสือเป็นเวลานาน อาการปวดมักจะรุนแรงขึ้น แม้แต่การนอนหลับก็อาจมีปัญหา เนื่องจากการปวดหรือชาที่เกิดขึ้น และหากนอนผิดท่าอาจทำให้อาการกำเริบ ในกรณีที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการหยิบจับสิ่งของ การเขียนหนังสือ หรือการทรงตัว
วิธีรักษากระดูกคอเสื่อม
การรักษากระดูกคอเสื่อมที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ควรใช้แนวทางการรักษาแบบองค์รวม ซึ่งประกอบด้วย 5 เสาหลัก:
1. การฝังเข็ม
การฝังเข็มที่ผสมผสานความรู้ทางการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์แผนจีน ช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Journal of Pain Research ปี 2021 พบว่าการฝังเข็มช่วยลดอาการปวดคอจากกระดูกสันหลังเสื่อมได้อย่างมีนัยสำคัญ
2. การใช้ยาแบบ “ให้ครบ ให้ถูก ให้ถึง”
- ให้ครบ: ใช้ยาครบทุกกลุ่มที่จำเป็น
- ให้ถูก: เลือกยาที่เหมาะสมกับสาเหตุและผู้ป่วยแต่ละราย
- ให้ถึง: ใช้ยาในปริมาณที่เพียงพอเพื่อหยุดกระบวนการอักเสบ
ยาที่ใช้ในการรักษา เช่น ยาลดปวดและอักเสบ (Paracetamol, NSAIDs) และยาคลายกล้ามเนื้อ
3. อาหารเสริม DrSUN4in1
ผลิตภัณฑ์ที่ผสานสารสกัดคุณภาพสูงจากต่างประเทศ ประกอบด้วย Collagen Type II จากอเมริกาที่ช่วยฟื้นฟูหมอนรองกระดูก Proteoglycan จากญี่ปุ่นเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อ และแมกนีเซียมที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
4. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและลดความเสี่ยง
- การจัดท่าทางการทำงานที่ถูกต้อง
- การออกแบบสถานที่ทำงานให้เหมาะสม
- การใช้อุปกรณ์ช่วยที่เหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการก้ม-เงยคอแรง ๆ
- ควบคุมน้ำหนัก
5. การออกกำลังกายและการบริหาร
การทำท่าบริหารที่เหมาะสม เช่น การยืดกล้ามเนื้อคอ (neck stretch, chin tuck, shoulder shrug) และการบริหารกล้ามเนื้อรอบคอและหลัง (isometric neck exercises) ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและลดอาการปวด
ทำไมต้องเลือกคลินิกหมอซัน
คลินิกหมอซันมีจุดเด่นที่แตกต่างจากที่อื่น ด้วยเทคนิคการฝังเข็มพิเศษที่ผสมผสานความรู้ทางการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์แผนจีน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญฝังเข็มที่เป็นวิสัญญีแพทย์จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
ผู้ป่วยสามารถหายปวดได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องผ่าตัด พร้อมทั้งได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง มีหลักฐานและรีวิวจากผู้ป่วยที่ประสบความสำเร็จในการรักษามากมาย แม้แต่ผู้ป่วยที่เคยรักษาที่อื่นมาแล้วไม่หาย หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยที่ผ่าตัดมาแล้วแต่ยังปวดอยู่
อาหารและเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยง
สำหรับผู้ป่วยกระดูกคอเสื่อม การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมมีความสำคัญต่อการควบคุมอาการและป้องกันการอักเสบ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่:
อาหารทอดและไขมันทรานส์
ของทอด เนยเทียม ขนมขบเคี้ยว และอาหารทอดต่าง ๆ มีไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ทำให้อาการปวดรุนแรงขึ้น
อาหารแปรรูป
ไส้กรอก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ของหมักดอง และอาหารที่มีโซเดียมและน้ำตาลสูง เสี่ยงทำให้เกิดการบวมของข้อและกระตุ้นการอักเสบ
น้ำตาลและของหวาน
น้ำอัดลม ขนมหวาน และอาหารที่มีน้ำตาลสูง กระตุ้นการอักเสบและทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ส่งผลให้แรงกดต่อข้อคอมากขึ้น
แป้งขัดขาวและกลูเตน
อาหารที่มีแป้งขัดขาวและกลูเตนอาจกระตุ้นการอักเสบ โดยเฉพาะในผู้ที่มีความไวต่อสารเหล่านี้
แอลกอฮอล์
ส่งผลไม่ดีต่อข้อและกล้ามเนื้อ รวมทั้งรบกวนการนอนหลับที่มีคุณภาพ
การป้องกันและการดูแลตัวเอง
การป้องกันและดูแลตัวเองที่ถูกต้องช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันอาการกำเริบ:
- ออกกำลังกายที่เหมาะสมกับกล้ามเนื้อคอ
- ปรับท่านั่งและท่ายืนให้ถูกหลัก ergonomic ตลอดวัน
- หลีกเลี่ยงการก้มเล่นมือถือหรืออ่านหนังสือเป็นเวลานาน
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- งดอาหารกระตุ้นอักเสบ เช่น ของทอด น้ำตาล อาหารขยะ
- รับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 เช่น ปลา ถั่ว
- พักสายตาและยืดคอเป็นระยะ ๆ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: กระดูกคอเสื่อม ห้ามกินอะไรบ้าง?
A: ควรเลี่ยงของทอด อาหารแปรรูป น้ำตาลสูง ไขมันทรานส์ และอาหารที่มีเกลือมาก เพราะอาหารเหล่านี้กระตุ้นการอักเสบและทำให้อาการแย่ลง
Q: กินอาหารเสริมอะไรช่วยบำรุงได้ไหม?
A: อาจพิจารณา Omega-3, Vitamin D และ Collagen Type II แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย
Q: ทำไมต้องดูแลท่านั่ง/ท่านอน?
A: ท่าทางที่ผิดเพิ่มแรงกดและเสี่ยงต่อการเสื่อมมากขึ้น การปรับ ergonomic ช่วยป้องกันไม่ให้โรคกำเริบ
Q: ทุกคนเสี่ยงเป็นกระดูกคอเสื่อมหรือไม่?
A: ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามอายุ แต่คนที่ใช้งานคอผิดท่า มีน้ำหนักเกิน หรือไม่ออกกำลังกาย มีความเสี่ยงสูงกว่า
Q: กระดูกคอเสื่อมหายขาดไหม?
A: เป็นโรคเรื้อรังที่สามารถควบคุมอาการได้ การรักษาที่ถูกต้องช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์
คุณควรพบแพทย์เมื่อมีอาการดังนี้:
- ปวดคอหรืออาการไม่ดีขึ้นหลังจาก 2-3 วัน หรือมีอาการมากกว่า 3 เดือน
- มีอาการอ่อนแรงหรือชาที่แขนหรือขา
- อาการรุนแรงจนรบกวนชีวิตประจำวัน เช่น เดินลำบาก จับสิ่งของไม่ถนัด
- กล้ามเนื้อกระตุก ปวดทรมาน หรือเคลื่อนไหวลำบาก
สรุป
กระดูกคอเสื่อมเป็นปัญหาสุขภาพที่สามารถรักษาและควบคุมได้ด้วยวิธีการที่เหมาะสม การหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นการอักเสบเป็นส่วนสำคัญของการรักษา ควบคู่กับการฝังเข็ม การใช้ยาที่ถูกต้อง การปรับพฤติกรรม และการออกกำลังกาย
หากคุณกำลังประสบปัญหากระดูกคอเสื่อม อย่าปล่อยให้อาการรุนแรงขึ้น ติดต่อคลินิกหมอซันเพื่อรับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องผ่าตัด
ติดต่อเราได้ที่:
โทร: 065-235-4944, 083-693-9965
Line Official: @drsun