อาการกระดูกทับเส้นประสาทเป็นปัญหาสุขภาพที่สร้างความทรมานให้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ทำให้มีอาการปวดร้าวจากสะโพกลงไปตามขา เดินลำบาก และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก หลายคนคิดว่าการผ่าตัดเป็นทางออกเดียว แต่จริงๆ แล้วการใช้ยาแก้กระดูกทับเส้นอย่างถูกวิธีสามารถช่วยบรรเทาอาการและอาจทำให้หายโดยไม่ต้องผ่าตัดได้
หลักการสำคัญในการใช้ยาแก้กระดูกทับเส้นให้ได้ผล คือ การกินยาให้ “ครบ ถูก ถึง” ตามคำแนะนำของแพทย์ ดังนี้
การกินยาให้ครบหมายถึงการทานยาทุกตัวที่แพทย์สั่งอย่างครบถ้วน โดยไม่ตัดยาตัวใดตัวหนึ่งออก ยาแก้กระดูกทับเส้นที่แพทย์มักจะสั่งประกอบด้วย:
- ยาแก้ปวดพาราเซตามอล
- ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs
- ยาคลายกล้ามเนื้อ
- ยาแก้ปวดเส้นประสาท
ยาแต่ละตัวมีกลไกการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน และทำงานร่วมกันเพื่อบรรเทาอาการปวดและการอักเสบ การกินยาให้ครบทุกตัวจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการรักษา
การกินยาให้ถูกมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้ยาออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย ประกอบด้วย:
- ถูกชนิด: ใช้ยาตรงตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น ไม่ซื้อยามารับประทานเอง
- ถูกขนาด: ทานยาในปริมาณที่แพทย์กำหนด ไม่เพิ่มหรือลดขนาดยาเอง
- ถูกเวลา: ทานยาตรงตามเวลาที่กำหนด เช่น ก่อนอาหาร หลังอาหาร หรือก่อนนอน
- ถูกวิธี: ทานยาตามคำแนะนำ เช่น ทานพร้อมน้ำเปล่า ไม่ทานร่วมกับนม เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อตับและไต โดยเฉพาะในผู้ป่วยสูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว แพทย์จะพิจารณาเลือกยาและปรับขนาดยาให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของผู้ป่วยแต่ละราย
การกินยาให้ถึงหมายถึงการทานยาในขนาดที่เพียงพอและต่อเนื่องจนครบคอร์สการรักษาตามที่แพทย์กำหนด หลายคนมักหยุดยาเองเมื่อรู้สึกว่าอาการดีขึ้นเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้อาการกลับมาเป็นซ้ำได้
การทานยาให้ถึงมีหลักการดังนี้:
- ทานยาในขนาดที่เพียงพอต่อการรักษา: หากปวดมาก อาจต้องทานยาในขนาดที่สูงขึ้นตามคำแนะนำของแพทย์
- ทานยาอย่างต่อเนื่อง: ไม่ควรหยุดยาเองเมื่อรู้สึกว่าอาการดีขึ้น
- ทานยาจนครบคอร์สการรักษา: แม้อาการจะดีขึ้นแล้ว ควรทานยาต่อจนครบตามที่แพทย์กำหนด เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
ประโยชน์ของการกินยาแก้กระดูกทับเส้นอย่างถูกต้อง
การใช้ยาแก้กระดูกทับเส้นอย่างถูกวิธีตามหลัก “ครบ ถูก ถึง” สามารถให้ผลการรักษาที่น่าประทับใจ ดังเช่นกรณีตัวอย่างของผู้ป่วยที่มีอาการปวดสลักเพชรมานานถึง 6 ปี เดินแทบไม่ได้ นอนไม่หลับ กินไม่ลง แต่หลังจากได้รับการรักษาด้วยยาตามหลักการดังกล่าวเพียง 3 สัปดาห์ อาการปวดดีขึ้นถึง 90%
ประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้ยาอย่างถูกต้อง ได้แก่:
- บรรเทาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดการอักเสบของเส้นประสาทที่ถูกกดทับ
- ฟื้นฟูการทำงานของเส้นประสาท
- เพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อรอบกระดูกสันหลัง
- ปรับปรุงคุณภาพชีวิต ทำให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ลดโอกาสที่จะต้องรับการผ่าตัด
อย่างไรก็ตาม การใช้ยาแก้กระดูกทับเส้นควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามผลการรักษาและปรับเปลี่ยนแผนการรักษาตามความเหมาะสม นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การรักษาน้ำหนักตัว และการระมัดระวังท่าทางในชีวิตประจำวัน เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
สรุป
การใช้ยาแก้กระดูกทับเส้นอย่างถูกวิธีตามหลัก “ครบ ถูก ถึง” สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและฟื้นฟูการทำงานของเส้นประสาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในหลายกรณีอาจช่วยให้ผู้ป่วยหายจากอาการโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด อย่างไรก็ตาม การรักษาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถฟื้นตัวและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ การดูแลสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และระมัดระวังในการใช้งานกระดูกสันหลัง จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดหมอนรองกระดูกทับเส้นได้
แต่ถ้าอาการปวดหลัง กระดูกทับเส้น เป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ แนะนำให้รักษาที่ต้นเหตุ
ด้วยการมาปรึกษาพบแพทย์โดยด่วน ก่อนที่จะต้องผ่าตัด