ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการรักษาข้อเข่าเสื่อม และความจริงที่คุณควรรู้

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการรักษาข้อเข่าเสื่อม และความจริงที่คุณควรรู้

หลายคนที่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อมมักจะเผชิญกับความทุกข์ทรมานจากอาการปวด จนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต บางคนถึงขั้นเดินลำบาก ทำกิจวัตรประจำวันไม่ได้ และที่สำคัญคือมักจะได้รับข้อมูลหรือความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการรักษา วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเชื่อที่ผิดและความจริงที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการรักษาข้อเข่าเสื่อม

1: ข้อเข่าเสื่อมต้องผ่าตัดเท่านั้นถึงจะหาย

ความจริง: การผ่าตัดไม่ใช่ทางออกเดียวในการรักษาข้อเข่าเสื่อม ปัจจุบันมีวิธีการรักษาแบบไม่ผ่าตัดที่ได้ผลดี โดยเฉพาะการรักษาแบบองค์รวมที่ผสมผสานทั้งการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์ทางเลือก เช่น การฝังเข็ม ร่วมกับการทานอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบจำเพาะสำหรับการบำรุงข้อและกระดูก

มีกรณีศึกษาจำนวนมากที่พบว่าผู้ป่วยสามารถหายจากอาการปวดเข่าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แม้แต่ในรายที่แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นข้อเข่าเสื่อมระยะที่ 3 และได้รับคำแนะนำให้ผ่าตัด

2: ถ้าเป็นข้อเข่าเสื่อม ห้ามออกกำลังกายเด็ดขาด

ความจริง: การออกกำลังกายที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม เพราะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า ทำให้ข้อเข่ามีความมั่นคงมากขึ้น มีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่สามารถกลับไปวิ่งและทำกิจกรรมที่ชื่นชอบได้หลังจากได้รับการรักษาที่ถูกต้อง

ตัวอย่างเช่น มีผู้ป่วยที่เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นข้อเข่าเสื่อมระยะ 3 และแพทย์แนะนำว่าไม่ควรวิ่งตลอดชีวิต แต่หลังจากได้รับการรักษาแบบองค์รวมและทานอาหารเสริม DrSUN4in1 สามารถกลับมาวิ่งฮาล์ฟมาราธอนได้

3: การฉีดสเตียรอยด์เข้าข้อคือวิธีที่ดีที่สุด

ความจริง: การฉีดสเตียรอยด์เข้าข้อเป็นเพียงหนึ่งในวิธีในการรักษาตามอาการ ซึ่งการฉีดบ่อยๆ อาจส่งผลต่อข้อเข่าในระยะยาว การรักษาที่ยั่งยืนต้องเน้นการฟื้นฟูสภาพข้อและเนื้อเยื่อโดยรอบ รวมถึงการปรับสมดุลของร่างกายโดยรวม

แนวทางการรักษาข้อเข่าเสื่อม ด้วย 5 เสา

  1. การรับประทานยาที่เหมาะสม
    • ใช้ยาตามแนวทาง “ให้ครบ ให้ถูก ให้ถึง”
    • เน้นการรักษาที่ตรงจุดและปลอดภัยต่อตับและไต
  2. การฝังเข็ม
    • การฝังเข็ม โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยลดกระบวนการอักเสบของข้อเข่า
    • ปรับเฉพาะบุคคลตามสภาพร่างกายและความรุนแรงของอาการ
  3. อาหารเสริม
    • DrSUN4in1 ที่มีส่วนประกอบสำคัญ:
      • คอลลาเจนไทป์ 2 จากอเมริกา
      • โปรติโอไกลแคนจากญี่ปุ่น ช่วยในการดึงน้ำเข้าข้อ
      • แมกนีเซียมช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
  4. การลดความเสี่ยง
    • ปรับพฤติกรรมที่อาจส่งผลเสียต่อข้อเข่า
    • หลีกเลี่ยงท่าทางที่ทำให้เข่ารับน้ำหนักมากเกินไป
  5. การออกกำลังกายที่เหมาะสม
    • เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า
    • เพิ่มความมั่นคงของข้อและช่วยในการทรงตัว

ผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษาแบบองค์รวม

การรักษาแบบองค์รวมไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาอาการปวด แต่ยังส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตในหลายด้าน:

  1. ด้านร่างกาย
    • หายปวดได้อย่างยั่งยืน
    • เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วขึ้น
    • กลับมาทำกิจกรรมที่ชื่นชอบได้
  2. ด้านจิตใจ
    • ลดความเครียดและความวิตกกังวล
    • มีความมั่นใจในการเคลื่อนไหวมากขึ้น
    • มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
  3. ด้านการใช้ชีวิต
    • สามารถทำงานได้ตามปกติ
    • ท่องเที่ยวและทำกิจกรรมกับครอบครัวได้
    • ไม่เป็นภาระให้กับคนรอบข้าง

บทสรุป

การรักษาข้อเข่าเสื่อมไม่จำเป็นต้องพึ่งการผ่าตัดเสมอไป การรักษาแบบองค์รวมที่ผสมผสานทั้งศาสตร์ตะวันออกและตะวันตก พร้อมทั้งการดูแลสุขภาพอย่างเป็นระบบ สามารถช่วยให้ผู้ป่วยหายจากอาการปวดและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข สิ่งสำคัญคือการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเอง และการได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจการรักษาแบบองค์รวม

หากคุณกำลังประสบปัญหาข้อเข่าเสื่อม อย่าปล่อยให้ความเชื่อผิดๆ มาขัดขวางโอกาสในการรักษาที่ถูกต้อง ถ้ามีอาการปวดเข่า ข้อเข่าเสื่อม แนะนำให้รักษาที่ต้นเหตุ ด้วยการมา ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยด่วน ก่อนที่จะต้องผ่าตัด เพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ เพราะคุณภาพชีวิตที่ดีไม่ควรถูกจำกัดด้วยอาการปวดเข่า

Share this
Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on linkedin
LinkedIn