
สาเหตุของปวดคอบ่าไหล่จากออฟฟิศซินโดรม
ก่อนจะเข้าสู่วิธีการแก้ไข เรามาทำความเข้าใจสาเหตุของอาการปวดคอบ่าไหล่จากออฟฟิศซินโดรมกันก่อน:
- อิริยาบถที่ไม่เหมาะสม – การนั่งหลังค่อม ก้มคอมองคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน
- กล้ามเนื้อทำงานหนักเกินไป – กล้ามเนื้อคอและบ่าต้องทำงานหนักเพื่อรองรับน้ำหนักศีรษะในท่าที่ไม่เหมาะสม
- การไหลเวียนของเลือดลดลง – เมื่อนั่งนิ่งนานๆ การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อคอและบ่าลดลง
- ความเครียด – ความเครียดจากการทำงานทำให้กล้ามเนื้อเกร็ง
- ความเสื่อมของกระดูกคอ – อาการปวดคอบ่าไหล่เรื้อรังอาจเกิดจากกระดูกคอเสื่อมหรือหมอนรองกระดูกคอเสื่อม
5 วิธีบอกลาปวดคอบ่าไหล่ ออฟฟิศซินโดรม
1. ปรับอิริยาบถการนั่งทำงานให้ถูกต้อง
การนั่งทำงานที่ถูกต้องช่วยลดแรงกดทับที่คอและบ่าได้มาก:
- จัดความสูงของจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ระดับสายตา
- นั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิงรองรับหลังส่วนล่าง
- วางแขนให้พักบนที่วางแขนหรือโต๊ะอย่างสบาย
- เว้นระยะห่างจากจอประมาณ 50-70 เซนติเมตร
- หมั่นลุกเดินเปลี่ยนอิริยาบถทุก 30-45 นาที
จากการดูแลคนไข้ หมอพบว่าเพียงแค่ปรับท่านั่งให้ถูกต้อง คนไข้หลายรายอาการดีขึ้นถึง 30-40% โดยไม่ต้องพึ่งยาหรือการรักษาใดๆ
2. บริหารคอและบ่าด้วยท่าง่ายๆ ระหว่างวัน
การบริหารคอและบ่าระหว่างวันช่วยคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งและเพิ่มการไหลเวียนเลือด:
- ท่าหมุนคอ: หมุนคอช้าๆ เป็นวงกลมทั้งตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกา 5-10 รอบ
- ท่ายักไหล่: ยกไหล่ขึ้นค้างไว้ 3 วินาที แล้วปล่อย ทำซ้ำ 10 ครั้ง
- ท่ากดคาง: กดคางลงเล็กน้อย เพื่อยืดกล้ามเนื้อคอด้านหลัง ค้างไว้ 15-30 วินาที
- ท่าเหยียดแขน: ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ เหยียดแขนให้สุด ค้างไว้ 10 วินาที
3. ประคบร้อน-เย็นเพื่อบรรเทาอาการปวด
การประคบร้อน-เย็นช่วยลดการอักเสบและคลายกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ:
- ประคบเย็น: ช่วงที่มีอาการปวดเฉียบพลัน ใช้ประคบ 15-20 นาที
- ประคบร้อน: เมื่อพ้นระยะปวดเฉียบพลัน (48 ชั่วโมงขึ้นไป) ประคบ 15-20 นาที
- สลับร้อน-เย็น: ในกรณีปวดเรื้อรัง เริ่มด้วยร้อน 5 นาที ตามด้วยเย็น 2 นาที ทำ 3 รอบ
จากประสบการณ์การรักษา คนไข้ที่ทำอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอมีโอกาสหายปวดสูงถึง 70-80% โดยไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวดมากเกินความจำเป็น
4. การฝังเข็มบรรเทาอาการปวด
การฝังเข็มเป็นวิธีการที่ได้ผลดีสำหรับอาการปวดคอบ่าไหล่ โดยเฉพาะในรายที่เป็นเรื้อรัง:
- ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งตัว
- กระตุ้นการไหลเวียนเลือดไปบริเวณที่ปวด
- ปรับสมดุลของพลังงานในร่างกาย
- ลดการอักเสบที่เกิดขึ้น
จากการรักษาคนไข้ที่มีอาการปวดคอบ่าไหล่กว่า 18,000 เคส หมอพบว่าเทคนิคการฝังเข็ม สามารถบรรเทาอาการปวดได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่รักษา และหายขาดได้ แม้แต่กรณีที่เป็นมานานหลายปีและรักษาด้วยวิธีอื่นๆ มามากมายแล้วไม่หาย
5. ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและอาหารการกิน
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและอาหารช่วยป้องกันการกลับมาของอาการปวดในระยะยาว:
- ออกกำลังกายเบาๆ สม่ำเสมอ: เดิน ว่ายน้ำ โยคะ
- รับประทานอาหารต้านการอักเสบ: ปลาทะเล น้ำมันมะกอก เครื่องเทศ
- ลดน้ำหนัก: ลดแรงกดทับบนกระดูกสันหลัง
- ปรับการนอน: นอนหมอนที่เหมาะสม ไม่สูงหรือต่ำเกินไป
- เสริมอาหารที่ช่วยบำรุงกระดูกและข้อ: แคลเซียม และคอลลาเจนชนิดพิเศษสำหรับข้อและกระดูก
จากประสบการณ์การรักษาคนไข้จำนวนมาก หมอพบว่าคนไข้ที่ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตร่วมกับการใช้อาหารเสริมที่เหมาะสม มีโอกาสหายขาดและไม่กลับมาเป็นซ้ำสูงถึง 90%
ทำไมต้องรีบรักษาอาการปวดคอบ่าไหล่
อาการปวดคอบ่าไหล่จากออฟฟิศซินโดรมหากปล่อยไว้นาน อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้:
- กระดูกคอเสื่อม: อาจทำให้เกิดกระดูกคอเสื่อมก่อนวัยอันควร
- หมอนรองกระดูกคอเสื่อม: อาจกดทับเส้นประสาท ทำให้มีอาการชา หรือปวดร้าวลงแขน
- ประสิทธิภาพการทำงานลดลง: ความเจ็บปวดส่งผลต่อสมาธิและประสิทธิภาพการทำงาน
- คุณภาพชีวิตแย่ลง: อาการปวดเรื้อรังส่งผลต่อการนอน และสุขภาพจิต
- นำไปสู่โรคอื่นๆ: อาการเครียดจากความเจ็บปวดอาจนำไปสู่โรคอื่นๆ เช่น ความดันโลหิตสูง
สรุป
การแก้ไขปัญหาปวดคอบ่าไหล่จากออฟฟิศซินโดรมอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องใช้การรักษาแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งการปรับอิริยาบถ การบริหาร การบรรเทาอาการปวดด้วยการประคบและการฝังเข็ม รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต จากประสบการณ์การรักษาคนไข้กว่า 18,000 เคส หมอมั่นใจว่าทุกคนสามารถหายปวดได้โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด หากได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีและตรงจุด
หากคุณมีอาการปวดคอบ่าไหล่ที่เป็นมานานและรักษาด้วยวิธีอื่นๆ มาแล้วไม่หาย อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะหมอเคยช่วยคนไข้ที่มีอาการรุนแรงมากว่า 10ปี ให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยไม่มีอาการปวด