วิธีรักษาอาการปวดหลังจาก “กระดูกทับเส้น” โดยไม่ต้องผ่าตัด

สาเหตุของอาการปวดหลังจากกระดูกทับเส้นในผู้สูงอายุ

กระดูกทับเส้น หรือโรคกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท (Spinal Stenosis) มักเกิดจากกระบวนการเสื่อมตามอายุที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยมีสาเหตุหลักๆ ดังนี้:

1. กระดูกสันหลังเสื่อม เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกสันหลังเกิดการเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ
2. หมอนรองกระดูกเสื่อม หรือ หมอนรองกระดูกปลิ้น ทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาท
3. โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ ทำให้มีพื้นที่สำหรับเส้นประสาทน้อยลง
4. กระดูกงอก เกิดการงอกของกระดูกบริเวณข้อต่อกระดูกสันหลัง
5. พังผืดหนาตัว ทำให้เกิดการกดเบียดเส้นประสาท

อาการที่พบได้บ่อยนอกจาก ปวดหลัง แล้ว ยังมีอาการ ปวดสะโพกร้าวลงขา ชา อ่อนแรง รู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าช็อต หรือ ปวดสลักเพชร ในบางราย อาการจะรุนแรงขึ้นเมื่อยืนหรือเดินนานๆ และจะทุเลาเมื่อนั่งหรือนอนพัก

ทางเลือกในการรักษาปวดหลังจากกระดูกทับเส้นโดยไม่ต้องผ่าตัด

การรักษาแบบไม่ผ่าตัด หรือการรักษาแบบประคับประคอง (Conservative Treatment) มีประสิทธิภาพสูงในการบรรเทาอาการ ปวดหลัง จาก กระดูกทับเส้น ในผู้สูงอายุ โดยวิธีการรักษาที่ได้ผลดีมีดังนี้:

1. การฝังเข็มแบบบูรณาการ

การฝังเข็มเป็นศาสตร์การรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับผู้ป่วย ปวดหลัง จาก กระดูกทับเส้น โดยเฉพาะเทคนิคการฝังเข็มแบบบูรณาการที่ผสมผสานศาสตร์การแพทย์แผนตะวันตกและตะวันออก

การฝังเข็มช่วยในการ:

• บรรเทาอาการปวดอย่างรวดเร็ว
• ลดการอักเสบบริเวณที่มีการกดทับเส้นประสาท
• เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณที่มีปัญหา
• ปรับสมดุลของระบบประสาท

ข้อดีของการฝังเข็มคือไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงเหมือนการใช้ยาแก้ปวดระยะยาว และเห็นผลการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยหลายรายที่มีอาการ ปวดหลัง เรื้อรังมานานหลายปี สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติหลังรับการรักษาด้วยการฝังเข็ม

2. การใช้ยาแก้ปวดตามหลัก “ให้ครบ ให้ถูก ให้ถึง”

การใช้ยาแก้ปวดอย่างถูกต้องเป็นส่วนสำคัญในการรักษาอาการ ปวดหลัง จาก กระดูกทับเส้น หลักการสำคัญคือการใช้ยาตามหลัก “ให้ครบ ให้ถูก ให้ถึง” ซึ่งหมายถึง:

• ให้ครบ – ใช้ยาที่ครอบคลุมกลไกการเกิดความปวดทั้งหมด
• ให้ถูก – เลือกใช้ยาให้เหมาะกับอาการและสภาพร่างกายของผู้ป่วย
• ให้ถึง – ใช้ยาในขนาดที่เพียงพอที่จะบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กลุ่มยาที่นิยมใช้ในการรักษาอาการ ปวดหลัง จาก กระดูกทับเส้น ได้แก่:

• ยาแก้ปวดและลดการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)
• ยาคลายกล้ามเนื้อ
• ยาลดอาการปวดจากเส้นประสาท

อย่างไรก็ตาม การใช้ยาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่อาจมีโรคประจำตัวอื่นๆ ร่วมด้วย

3. อาหารเสริมเพื่อฟื้นฟูโครงสร้างกระดูกและหมอนรองกระดูก

อาหารเสริมมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นฟูโครงสร้างกระดูกและหมอนรองกระดูก ซึ่งช่วยในการรักษาและป้องกันการกลับเป็นซ้ำของอาการ ปวดหลัง จาก กระดูกทับเส้น อาหารเสริมที่มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย:

• คอลลาเจนชนิด Type II – ช่วยฟื้นฟูหมอนรองกระดูกและกระดูกอ่อน
• โปรตีโอไกลแคน – ช่วยในการดึงน้ำเข้าสู่หมอนรองกระดูก เพิ่มความยืดหยุ่น
• แมกนีเซียม – ช่วยคลายกล้ามเนื้อและลดอาการเกร็ง
• แคลเซียม – ช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูก
• วิตามินดี – ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม

อาหารเสริมเหล่านี้ช่วยเสริมการรักษาหลัก ทำให้อาการดีขึ้นอย่างยั่งยืนและป้องกันการกลับเป็นซ้ำ

4. การทำกายภาพบำบัด

การทำกายภาพบำบัดที่ถูกต้องเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังและเพิ่มความยืดหยุ่น การบำบัดด้วยกายภาพประกอบด้วย:

• การทำกายภาพเพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว
• การยืดกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น
• การนวดบำบัดเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัว
• การใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าเพื่อบรรเทาอาการปวด
• การสอนท่าทางในการใช้ชีวิตประจำวันที่ถูกต้อง

นักกายภาพบำบัดจะออกแบบโปรแกรมการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและระดับความรุนแรงของอาการ ปวดหลัง จาก กระดูกทับเส้น ของผู้ป่วยแต่ละราย

5. การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและลดปัจจัยเสี่ยง

การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเป็นส่วนสำคัญในการรักษาและป้องกันการกลับเป็นซ้ำของอาการ ปวดหลัง จาก กระดูกทับเส้น โดยการปรับเปลี่ยนที่สำคัญ ได้แก่:

• การควบคุมน้ำหนัก – ลดแรงกดทับบนกระดูกสันหลัง
• การออกกำลังกายที่เหมาะสม – เช่น การเดิน ว่ายน้ำ หรือโยคะที่ดัดแปลงสำหรับผู้สูงอายุ
• การปรับท่าทางและการยกของ – หลีกเลี่ยงการก้มหรือบิดตัวอย่างรุนแรง
• การใช้เครื่องพยุงหลัง – ช่วยรักษาแนวของกระดูกสันหลังให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
• การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิต – เช่น การปรับความสูงของโต๊ะ เก้าอี้ และเตียงนอน

กรณีศึกษา: การรักษาปวดหลังจากกระดูกทับเส้นโดยไม่ต้องผ่าตัด

คุณบูรณ์ เป็นผู้ป่วยที่มีอาการ ปวดหลัง เรื้อรังจาก กระดูกทับเส้น มายาวนาน ทำให้เดินลำบาก นั่งนานๆ ไม่ได้ และมีอาการปวดร้าวลงขา จนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก แพทย์ทั่วไปแนะนำให้ผ่าตัด แต่คุณบูรณ์กังวลเรื่องการผ่าตัดและต้องการหาทางเลือกอื่น

หลังจากเข้ารับการรักษาแบบบูรณาการที่ประกอบด้วยการฝังเข็ม การใช้ยาแก้ปวดอย่างเหมาะสม ร่วมกับการทานอาหารเสริม DrSUN4in1 และการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง คุณบูรณ์มีอาการดีขึ้นอย่างมาก สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทำกิจกรรมที่ชื่นชอบได้อีกครั้ง โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด

เมื่อไหร่ควรปรึกษาแพทย์?

แม้ว่าการรักษา ปวดหลัง จาก กระดูกทับเส้น แบบไม่ผ่าตัดจะได้ผลดีในผู้ป่วยส่วนใหญ่ แต่มีบางกรณีที่อาจจำเป็นต้องพบแพทย์โดยเร่งด่วน ได้แก่:

• มีอาการอ่อนแรงของขาอย่างรุนแรงหรือเฉียบพลัน
• มีอาการชาบริเวณก้นหรืออวัยวะสืบพันธุ์
• มีปัญหาในการควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ
• มีอาการปวดรุนแรงที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาใดๆ
• มีอาการปวดร่วมกับไข้สูง น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะทางระบบประสาทที่รุนแรงที่ต้องได้รับการรักษาโดยเร่งด่วน

สรุป

อาการ ปวดหลัง จาก กระดูกทับเส้น ในผู้สูงอายุเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย แต่ไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเสมอไป การรักษาแบบบูรณาการที่ประกอบด้วยการฝังเข็ม การใช้ยาอย่างเหมาะสม อาหารเสริม การทำกายภาพบำบัด และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต สามารถบรรเทาอาการและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากคุณหรือคนที่คุณรักกำลังประสบปัญหา ปวดหลัง จาก กระดูกทับเส้น อย่าเพิ่งท้อแท้หรือตัดสินใจผ่าตัดทันที การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณหายจากอาการปวดและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง

ติดต่อขอคำปรึกษา

• Line Official: @drsun
• Facebook: หมอซัน DrSUN

ทีมแพทย์ของเราพร้อมดูแลผู้ป่วยด้วยความใส่ใจ เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ค่ะ