อาการปวดก้นจากสลักเพชรจม ทำงานไม่ได้? รักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

บทความ
April 19, 2025

ปวดก้นทรมานจนท้อใจ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต แก้ไขได้อย่างไร?

หากคุณกำลังทุกข์ทรมานกับอาการปวดก้นเรื้อรัง จนไม่สามารถนั่งทำงานได้นาน ลุกก็ปวด นั่งก็ปวด นอนก็ปวด คุณไม่ได้เผชิญกับปัญหานี้เพียงลำพัง มีผู้ป่วยจำนวนมากที่มีอาการปวดก้นจากภาวะสลักเพชรจมหรือกระดูกก้นกบกดทับเส้นประสาท ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานอย่างรุนแรง

อาการปวดก้นจากสลักเพชรจมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานออฟฟิศที่ต้องนั่งเป็นเวลานาน หรือผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ความเจ็บปวดนี้อาจรุนแรงถึงขั้นทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ กระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงาน และส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตใจในระยะยาว

อะไรคือสาเหตุของอาการปวดก้นจากสลักเพชรจม?

สลักเพชรหรือกระดูกก้นกบ (Coccyx) คือกระดูกชิ้นเล็กๆ ที่อยู่ปลายกระดูกกระเบนเหน็บ เมื่อมีการกดทับหรือบาดเจ็บที่บริเวณนี้ เช่น จากการนั่งผิดท่า การล้ม หรือกล้ามเนื้อบริเวณก้นตึงเครียด อาจนำไปสู่ภาวะสลักเพชรจม ส่งผลให้มีการกดทับเส้นประสาทบริเวณก้น ทำให้เกิดอาการปวดก้นเรื้อรัง

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการปวดก้นจากสลักเพชรจม:

การนั่งเป็นเวลานานๆ ในท่าเดิม
การบาดเจ็บจากการล้มหรือกระแทกบริเวณก้น
ความเครียดและการเกร็งกล้ามเนื้อเรื้อรัง
อายุที่เพิ่มขึ้นและการเสื่อมของกระดูก
น้ำหนักตัวที่มากเกิน
ความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกสันหลัง

อาการของผู้ที่มีปัญหาปวดก้นจากสลักเพชรจม

ผู้ที่มีอาการปวดก้นจากภาวะสลักเพชรจมจะพบกับอาการดังต่อไปนี้:

ปวดบริเวณก้นอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อนั่งนานๆ
อาการปวดร้าวลงขาหรือบริเวณสะโพก
ปวดมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนท่าจากนั่งเป็นยืน
อาการชาร่วมด้วยในบางราย
ปวดเมื่อถ่ายอุจจาระ
นอนทับก้นไม่ได้เพราะปวด
อาการปวดเรื้อรังที่ไม่หายไปด้วยการพักผ่อน

หลายคนพยายามรักษาด้วยวิธีต่างๆ ทั้งการกินยา นวด ทำกายภาพบำบัด หรือใช้อุปกรณ์รองนั่งพิเศษ แต่ผลลัพธ์ที่ได้มักไม่น่าพอใจ อาการปวดก้นยังคงอยู่และในบางครั้งอาจรุนแรงขึ้น จนหลายคนท้อแท้และคิดว่าคงต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดนี้ไปตลอดชีวิต

การฝังเข็ม: ทางเลือกในการรักษาอาการปวดก้น โดยไม่ต้องผ่าตัด

ในปัจจุบัน การฝังเข็มได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการแพทย์ว่าเป็นวิธีการรักษาอาการปวดก้นที่มีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด งานวิจัยทางการแพทย์หลายงานได้ยืนยันประโยชน์ของการฝังเข็มในการบรรเทาอาการปวดและรักษาที่ต้นเหตุของปัญหา

10 ประโยชน์ของการฝังเข็มในการรักษาอาการปวดก้น:

ลดการอักเสบอย่างมีประสิทธิภาพ – การฝังเข็มช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารต้านการอักเสบตามธรรมชาติ ลดอาการบวม แดง ร้อน ปวด โดยไม่ต้องพึ่งยาที่มีผลข้างเคียง
คลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียด – กล้ามเนื้อบริเวณก้นและสะโพกที่เกร็งตัวเป็นสาเหตุสำคัญของการกดทับเส้นประสาท การฝังเข็มจะช่วยคลายกล้ามเนื้อเหล่านี้ ทำให้แรงกดทับลดลง และอาการปวดก้นบรรเทาลง
กระตุ้นการไหลเวียนเลือด – เมื่อเลือดไหลเวียนดีขึ้น ออกซิเจนและสารอาหารจะถูกส่งไปยังเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บได้มากขึ้น ช่วยเร่งการซ่อมแซมและลดการอักเสบบริเวณก้น
ปล่อยสารเอนดอร์ฟิน – การฝังเข็มกระตุ้นร่างกายให้หลั่งสารแก้ปวดตามธรรมชาติ ทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการปวดก้นรู้สึกผ่อนคลายและปวดน้อยลง โดยไม่มีผลข้างเคียงเหมือนยาแก้ปวด
รักษาที่ต้นเหตุ – การฝังเข็มไม่ใช่แค่บรรเทาอาการปวดก้นชั่วคราว แต่แก้ไขความไม่สมดุลในร่างกายที่เป็นสาเหตุของปัญหา ทำให้หายขาดและไม่กลับมาเป็นซ้ำ
ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง – ไม่ทำให้ตับไตเสื่อม ไม่ทำให้กระเพาะอาหารทะลุ อย่างที่อาจเกิดจากการใช้ยาแก้ปวดเป็นเวลานาน ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดก้นเรื้อรัง
ปรับสมดุลระบบประสาท – เส้นประสาทที่ถูกกดทับหรือระคายเคืองจากสลักเพชรจมจะได้รับการรักษาให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ ลดอาการชาและปวดแสบปวดร้อนบริเวณก้น
ไร้สารเคมี – เป็นวิธีธรรมชาติที่ไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือยา เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดก้นเรื้อรังแต่แพ้ยา หรือไม่ต้องการทานยาเป็นเวลานาน
รักษาแบบองค์รวม – นอกจากรักษาอาการปวดก้นเฉพาะจุด ยังพิจารณาสุขภาพโดยรวมและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ทำให้มีสุขภาพดีขึ้นทั้งร่างกาย
ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ – การรักษาอย่างต่อเนื่องช่วยสร้างความแข็งแรงและป้องกันไม่ให้อาการปวดก้นกลับมาเป็นซ้ำ ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว

กรณีศึกษา: หายจากอาการปวดก้นด้วยการฝังเข็ม

คุณสมศรี (นามสมมติ) อายุ 52 ปี ผู้บริหารบริษัทเอกชน มีอาการปวดก้นอย่างรุนแรงจากภาวะสลักเพชรจม เธอต้องนั่งประชุมเป็นเวลานานทำให้อาการปวดก้นทวีความรุนแรง จนแทบไม่สามารถทำงานได้ปกติ

“ดิฉันทรมานมากค่ะ นั่งประชุมไม่ได้นานเกิน 15 นาที ต้องลุกไปเดินบ่อยๆ ทำให้งานเสียไปหมด ทำอะไรก็ไม่มีสมาธิเพราะปวดก้นตลอดเวลา” คุณสมศรีเล่า

เธอได้รับการรักษามาแล้วหลายวิธี ทั้งกินยาแก้ปวด ทำกายภาพบำบัด นวดบำบัด และใช้อุปกรณ์รองนั่งพิเศษ แต่อาการปวดก้นไม่ดีขึ้น กระทั่งได้ลองรักษาด้วยการฝังเข็มขั้นสูง

หลังจากได้รับการรักษาด้วยการฝังเข็มอย่างต่อเนื่อง อาการปวดก้นของเธอดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “หลังจากฝังเข็มครั้งที่ 3 ดิฉันรู้สึกว่าอาการปวดก้นลดลงอย่างมาก สามารถนั่งประชุมได้นานขึ้น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม” คุณสมศรีกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ปัจจุบัน เธอกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ไม่มีอาการปวดก้นรบกวน และสามารถกลับไปทำกิจกรรมที่ชื่นชอบได้อีกครั้ง โดยไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวดหรือการผ่าตัด

คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่มีอาการปวดก้น

นอกจากการฝังเข็มแล้ว ยังมีวิธีเสริมที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดก้นได้:

ปรับท่านั่ง – ใช้เบาะรองนั่งสำหรับผู้มีอาการปวดก้น หลีกเลี่ยงการนั่งบนพื้นแข็ง
ลุกเดินบ่อยๆ – ไม่ควรนั่งนานเกิน 30 นาทีโดยไม่ลุกเดินเปลี่ยนอิริยาบถ
ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ – ทำท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อก้นและสะโพกอย่างสม่ำเสมอ
ประคบเย็น/ร้อน – ประคบเย็นในช่วงแรก (24-48 ชั่วโมง) และประคบร้อนหลังจากนั้น
หลีกเลี่ยงการยกของหนัก – งดกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากหรือยกของหนัก
อาหารต้านการอักเสบ – รับประทานอาหารที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ เช่น ปลาแซลมอน ขมิ้น ผักใบเขียว

สรุป: รักษาอาการปวดก้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

อาการปวดก้นจากสลักเพชรจมเป็นปัญหาที่ทำให้คุณภาพชีวิตลดลงอย่างมาก แต่ไม่จำเป็นต้องทนทุกข์ทรมานหรือเสี่ยงกับการผ่าตัด การฝังเข็มเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการปวดก้นอย่างได้ผล โดยมีงานวิจัยรองรับและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

หากคุณกำลังประสบกับอาการปวดก้นเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและการทำงาน ไม่ว่าจะรักษามาแล้วด้วยวิธีใดก็ตาม การฝังเข็มอาจเป็นทางออกที่คุณรอคอย ช่วยให้คุณกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี ปราศจากความเจ็บปวด และสามารถกลับไปสู่การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อีกครั้ง

สนใจรับการรักษาอาการปวดก้นด้วยการฝังเข็ม สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่