อาการปวดคอเรื้อรังเป็นปัญหาที่พบบ่อยในคนทำงานออฟฟิศและผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน บทความนี้จะแนะนำวิธีบำบัดและป้องกันอาการปวดคอแบบครบวงจร เพื่อให้คุณกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง
สาเหตุของอาการปวดคอเรื้อรัง
อาการปวดคอเรื้อรังมักเกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่:
- ท่าทางการใช้งานคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนที่ไม่ถูกต้อง
- การนั่งทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานาน
- ความเครียดสะสมที่ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัว
- การนอนในท่าที่ไม่เหมาะสม
- โรคกระดูกคอเสื่อม
วิธีบำบัดอาการปวดคอด้วยตนเอง
1. การยืดกล้ามเนื้อคออย่างถูกวิธี
การยืดกล้ามเนื้อคอเป็นประจำจะช่วยคลายความตึงและลดอาการปวด ควรทำวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 10-15 นาที โดยมีท่าพื้นฐานดังนี้:
- เอียงคอซ้าย-ขวา ค้างไว้ข้างละ 15-30 วินาที
- หมุนคอช้าๆ เป็นวงกลม
- ก้มเงยคอเบาๆ
2. ปรับท่าทางการทำงานให้ถูกต้อง
- จอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ในระดับสายตา
- นั่งหลังตรง ไหล่ผ่อนคลาย
- พักสายตาและยืดเส้นทุก 1-2 ชั่วโมง
3. การประคบร้อน-เย็น
- ประคบเย็นช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกที่มีอาการปวด
- หลังจากนั้นใช้การประคบร้อนเพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อ
การรักษาทางการแพทย์
หากอาการไม่ดีขึ้นหลังจากดูแลตนเอง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เช่น:
- การฝังเข็ม โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อบรรเทาอาการปวดลดกระบวนการอักเสบ
- การใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ โดยใช้หลักการทานยา “ให้ครบ ให้ถูก ให้ถึง”
- การนวดบำบัด
- การกายภาพบำบัด
การป้องกันไม่ให้กลับมาปวดซ้ำ
การป้องกันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับอาการปวดคอเรื้อรัง:
- ออกกำลังกาย เพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอและหลัง
- การเลือกทานอาหารเสริม เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและข้อ
- การเลือกใช้หมอนและที่นอนที่เหมาะสม
- จัดสภาพแวดล้อมการทำงาน ให้เอื้อต่อการมีท่าทางที่ดี
- ลดเวลาการใช้สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- จัดการความเครียด ด้วยการทำสมาธิหรือโยคะ
สรุป
การรักษาอาการปวดคอเรื้อรังต้องอาศัยความเอาใจใส่และความสม่ำเสมอในการดูแลตนเอง โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและท่าทางในชีวิตประจำวัน ร่วมกับการบำบัดที่เหมาะสม หากทำตามคำแนะนำอย่างต่อเนื่อง คุณจะสามารถบรรเทาอาการปวดและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ถ้าอาการปวดคอเรื้อรัง ปวดคอบ่าไหล่ เป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ แนะนำให้รักษาที่ต้นเหตุ
ด้วยการมาปรึกษาพบแพทย์โดยด่วนก่อนที่จะต้องผ่าตัด