หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในคนวัยทำงาน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องนั่งประชุมหรือทำงานเป็นเวลานาน หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรระวังและรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาแต่เนิ่นๆ
5 อาการเตือนเสี่ยงหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
- ปวดร้าวลงขาข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง
- รู้สึกปวดแปล๊บจากหลังลงไปที่สะโพกและขา
- อาการปวดรุนแรงขึ้นเมื่อไอ จาม หรือเบ่ง
- บางรายมีอาการชาร่วมด้วย
- ปวดหลังเรื้อรัง
- ปวดตื้อๆ บริเวณหลังส่วนล่าง
- อาการปวดเพิ่มขึ้นเมื่อนั่งนานๆ
- ลุกนั่งลำบาก ต้องช่วยพยุงตัว
- อาการชาตามขาหรือเท้า
- ชาปลายเท้าหรือนิ้วเท้า
- รู้สึกเหมือนมีมดไต่
- บางครั้งมีอาการชาสลับร้อน
- กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง
- เดินขึ้นบันไดลำบาก
- ยืนเขย่งปลายเท้าไม่ได้
- ขาเตะหรือยกไม่ขึ้น
- อาการแย่ลงเมื่อ
- นั่งนานๆ โดยเฉพาะในรถ
- ก้มๆ เงยๆ บ่อย
- ยกของหนัก
ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท?
- ผู้บริหารหรือพนักงานออฟฟิศที่นั่งประชุมนานๆ
- ผู้ที่ต้องขับรถเป็นเวลานาน
- คนที่ยกของหนักเป็นประจำ
- ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน
- ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
ทำไมต้องรีบรักษา?
การปล่อยให้อาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเรื้อรังโดยไม่รับการรักษา อาจนำไปสู่:
- อาการปวดรุนแรงจนรบกวนการใช้ชีวิต
- เสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าจากความเจ็บปวด
- กล้ามเนื้อขาลีบจากการใช้งานน้อย
- อาจต้องผ่าตัดหากอาการรุนแรง
วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น
- ปรับท่าทางการนั่งทำงานให้ถูกต้อง
- หลีกเลี่ยงการนั่งนานเกิน 1 ชั่วโมง
- ออกกำลังกายเบาๆ เพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
- รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
สรุป
หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเป็นปัญหาที่สามารถรักษาได้หากพบแต่เนิ่นๆ การสังเกตอาการเบื้องต้นและรีบพบแพทย์จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด และกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
แต่ถ้าอาการปวดสะโพกร้าวลงขา ปวดหลัง หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ แนะนำให้รักษาที่ต้นเหตุ
ด้วยการมาปรึกษาพบแพทย์โดยด่วนก่อนที่จะต้องผ่าตัด