คุณเคยรู้สึกเหมือนมีไฟลุกอยู่ในร่างกายไหม? หรือมีความรู้สึกแสบร้อนที่ทำให้คุณทรมานจนแทบทนไม่ไหว? หากคุณกำลังประสบกับอาการปวดแสบร้อน บทความนี้มีคำตอบที่คุณกำลังมองหา! เรามาไขข้อข้องใจกับ 5 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับอาการปวดแสบร้อนกันเลยค่ะ
-
อาการปวดแสบร้อนคืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร?
อาการปวดแสบร้อนเป็นความรู้สึกเจ็บปวดชนิดหนึ่งที่ผู้ป่วยมักบรรยายว่าเหมือนถูกไฟลวกหรือน้ำร้อนลวก ซึ่งมักเกิดจากการอักเสบหรือการบาดเจ็บของเส้นประสาท โดยสาเหตุหลักๆ ได้แก่:
- การบาดเจ็บของเส้นประสาท เช่น จากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
- โรคเบาหวาน ที่ทำให้เกิดภาวะปลายประสาทเสื่อม
- โรคออโตอิมมูน เช่น โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis)
อาการเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อเส้นประสาทส่งสัญญาณผิดปกติไปยังสมอง ทำให้รู้สึกปวดแสบร้อนแม้ไม่มีสิ่งกระตุ้นจากภายนอก
-
อาการปวดแสบร้อนมักเกิดขึ้นที่บริเวณใดของร่างกาย?
อาการปวดแสบร้อนสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย แต่บริเวณที่พบบ่อยได้แก่:
- หลังส่วนล่าง: มักเกิดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หรือโรคกระดูกสันหลังเสื่อม
- ขาและเท้า: พบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะปลายประสาทเสื่อม
- คอและไหล่: อาจเกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทบริเวณคอ
- แขนและมือ: มักพบในผู้ที่มีอาการกระดูกคอเสื่อมหรือหมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาท
-
มีวิธีบรรเทาอาการปวดแสบร้อนด้วยตัวเองอย่างไรบ้าง?
แม้ว่าการรักษาที่ถูกต้องจะต้องปรึกษาแพทย์ แต่คุณสามารถบรรเทาอาการเบื้องต้นได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:
- ประคบเย็น: ช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดแสบร้อนได้
- ทายาหรือครีมบรรเทาปวด: เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของ capsaicin หรือ lidocaine
- ฝึกการหายใจและทำสมาธิ: ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดความเครียด
- ออกกำลังกายเบาๆ: เช่น การเดิน หรือการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
- หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนนานๆ: พยายามเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ
อย่างไรก็ตาม หากอาการไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงมากขึ้น ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด
-
การรักษาอาการปวดแสบร้อนทางการแพทย์มีวิธีใดบ้าง?
การรักษาทางการแพทย์จะขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ แต่วิธีที่นิยมใช้ได้แก่:
- การทานยา: ตามหลัก “ให้ครบ ให้ถูก ให้ถึง”
• ครบ: ต้องกินยาให้ครบสูตร ทั้งยาแก้ปวด ยาลดการอักเสบ และยาบำรุงเส้นประสาท• ถูก: ต้องกินยาให้ถูกกับโรค และถูกกับสภาพร่างกายของคุณ• ถึง: ต้องกินในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากไป ไม่น้อยไป
- การฝังเข็ม: เพื่อลดอาการปวดอย่างตรงจุด หายเร็วไม่ต้องผ่าตัด ตามหลักการขององค์การอนามัยโลก รับรองว่า ช่วยลดปวดได้จริงไม่ต้องผ่าตัด ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดการอักเสบ และฟื้นฟูเส้นประสาทที่เสื่อมสภาพ
-
ออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อแข็งแรง:• ท่าบริหารง่ายๆ ที่ทำได้ที่บ้าน ใช้เวลาแค่วันละ 10-15 นาที• ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด กระตุ้นการทำงานของเส้นประสาท และเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ทำแล้วจะรู้สึกสบายตัวขึ้น
-
ลดความเสี่ยง: ต้องกำจัดตัวกระตุ้นที่ทำให้อาการกำเริบ• หลีกเลี่ยงการยืนหรือเดินนานๆ• สวมรองเท้าที่นุ่มสบาย รองรับอุ้งเท้าได้ดี• ลดอาหารหวาน มัน เค็มจัด• งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์
- การทานอาหารเสริม: ช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูกและข้อ ที่ประกอบไปด้วย
•มีส่วนผสมของ UC-II คอลลาเจน, โปรตีโอไกลแคน, กลูโคซามีน และแมกนีเซียม•ช่วยฟื้นฟูเส้นประสาท ลดการอักเสบ และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้อย่างดีเยี่ยม
ที่คลินิกของเราเป็นผู้เชี่ยวชาญในการรักษาอาการปวด โดยเฉพาะการฝังเข็มร่วมกับการใช้ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยหายปวดได้เร็วและยั่งยืน โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดในหลายกรณี
-
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์เกี่ยวกับอาการปวดแสบร้อน?
คุณควรพบแพทย์ทันทีหากพบอาการดังต่อไปนี้:
- อาการปวดแสบร้อนรุนแรงขึ้นหรือไม่ดีขึ้นแม้ใช้วิธีบรรเทาอาการด้วยตนเอง
- มีอาการชาร่วมด้วย โดยเฉพาะที่แขนหรือขา
- มีไข้สูงร่วมกับอาการปวดแสบร้อน
- มีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ
- มีปัญหาในการควบคุมการขับถ่าย
อย่าปล่อยให้อาการปวดแสบร้อนทำร้ายคุณภาพชีวิตของคุณ! การพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้อาการลุกลามและช่วยให้คุณกลับมามีชีวิตที่มีความสุขได้เร็วขึ้น
ที่คลินิกของเรา เรามีความเชี่ยวชาญในการรักษาอาการปวดแสบร้อนจากสาเหตุต่างๆ โดยเฉพาะที่เกิดจากปัญหากระดูกและข้อ ด้วยวิธีการรักษาแบบองค์รวมที่ไม่ต้องผ่าตัด คุณหมอพร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ เพื่อให้คุณกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง
หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมหรือต้องการปรึกษาเกี่ยวกับอาการปวดแสบร้อน เรายินดีให้คำปรึกษาและช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่ค่ะ
ถ้าอาการปวดแสบร้อน เป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ แนะนำให้รักษาที่ต้นเหตุ
ด้วยการมาปรึกษาพบแพทย์โดยด่วนก่อนที่จะต้องผ่าตัด