บทความ

คลินิกรักษา กระดูกทับเส้นประสาท ต้องผ่าตัดไหม

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ต้องผ่าตัดไหม? ตอบจบที่นี่

ความจริงที่ต้องรู้ 90% ของคนที่มีหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด! เมื่อได้ยินคำว่า “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” หลายคนรู้สึกหวาดกลัวและคิดทันทีว่าต้องผ่าตัดแน่ๆ แต่ความจริงแล้ว การผ่าตัดควรเป็นทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกแรก ในบทความนี้เราจะเปิดเผยข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับการรักษากระดูกทับเส้น และวิธีการรักษากระดูกทับเส้นไม่ผ่าตัด หากคุณกำลังทนกับอาการปวดหลังร้าวลงขา อาการชาบริเวณขา หรือมีความเจ็บปวดที่รบกวนชีวิตประจำวัน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเลือกการรักษาที่หลากหลายและตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท คืออะไร? หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า “Herniated Disc” หรือ “Disc Prolapse” เป็นภาวะที่หมอนรองกระดูก (Intervertebral Disc) ที่อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละชิ้นเสื่อมสลายหรือเปลี่ยนรูปร่าง จนไปกดทับเส้นประสาทที่อยู่ใกล้เคียง โครงสร้างของหมอนรองกระดูก หมอนรองกระดูกประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก: ส่วนกลาง (Nucleus Pulposus) – เป็นเหมือนเจลนุ่มๆ ที่มีน้ำมาก ทำหน้าที่ดูดซับแรงกระแทก ส่วนนอก (Annulus Fibrosus) – เป็นเส้นใยแข็งแรงที่ห่อหุ้มส่วนกลางไว้ เมื่อมีการเสื่อมหรือบาดเจ็บ ส่วนนอกจะแตกหรือฉีกขาด ทำให้ส่วนกลางล้นออกมากดทับเส้นประสาท ก่อให้เกิดอาการต่างๆ ตามมา อาการของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อาการหลักที่พบบ่อย: ปวดหลังร้าวลงขา –

Read More »
หมอนรองกระดูกทับเส้น: สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา

หมอนรองกระดูกทับเส้น: สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา

หมอนรองกระดูกทับเส้นเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมากขึ้นหรือผู้ที่ต้องใช้งานกระดูกสันหลังอย่างหนัก บทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้น เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง หมอนรองกระดูกทับเส้นคืออะไร? หมอนรองกระดูกทับเส้น หรือที่เรียกทางการแพทย์ว่า ภาวะหมอนรองกระดูกเคลื่อน (Herniated Disc) เกิดขึ้นเมื่อหมอนรองกระดูกที่อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังเคลื่อนออกจากตำแหน่งปกติ และไปกดทับเส้นประสาทบริเวณใกล้เคียง ทำให้เกิดอาการปวดและความไม่สบายต่างๆ สาเหตุของหมอนรองกระดูกทับเส้น หมอนรองกระดูกทับเส้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่: การเสื่อมสภาพตามวัย: เมื่ออายุมากขึ้น หมอนรองกระดูกจะเสื่อมสภาพและมีความยืดหยุ่นน้อยลง ทำให้เสี่ยงต่อการเคลื่อนได้ง่าย การบาดเจ็บ: อุบัติเหตุหรือการยกของหนักอย่างไม่ถูกวิธีอาจทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อนได้ น้ำหนักตัวมากเกินไป: ภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนทำให้กระดูกสันหลังต้องรับน้ำหนักมากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดหมอนรองกระดูกทับเส้น การทำงานที่ต้องใช้แรงมาก: อาชีพที่ต้องยกของหนัก หรือนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงได้ พันธุกรรม: บางคนอาจมีแนวโน้มทางพันธุกรรมที่ทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ อาการของหมอนรองกระดูกทับเส้น ผู้ที่มีภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นอาจมีอาการต่างๆ ดังนี้: ปวดหลังหรือคอ: อาการปวดอาจรุนแรงขึ้นเมื่อเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนท่าทาง ชาหรือรู้สึกเสียวซ่าตามแขนหรือขา: เกิดจากการกดทับเส้นประสาท กล้ามเนื้ออ่อนแรง: อาจทำให้ยกแขนหรือเดินลำบาก ปวดร้าวลงขา (Sciatica): เป็นอาการที่พบบ่อยในกรณีหมอนรองกระดูกทับเส้นบริเวณเอว ปัญหาการควบคุมการขับถ่าย: ในกรณีที่รุนแรง อาจมีปัญหาในการควบคุมการปัสสาวะหรืออุจจาระ วิธีการรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้น การรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ได้แก่: การลดความเสี่ยง หรือพักการใช้งานส่วนที่มีอาการ ประคบร้อนเย็น

Read More »
7 สาเหตุ ของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้

7 สาเหตุ ของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องนั่งเป็นเวลานาน นักธุรกิจที่ขับรถไกลๆ หรือผู้ที่ต้องยกของหนักเป็นประจำที่ คลินิกรักษากระดูกทับเส้นของเรา ประสบการณ์รักษามากกว่า 20,000 เคส ด้วยวิธีการรักษาแบบบูรณาการที่ได้ผลจริง แต่คุณรู้หรือไม่ว่า หากปล่อยไว้นาน หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อาจนำไปสู่อาการเรื้อรังที่รักษาได้ยากขึ้น หรือแม้กระทั่งต้องผ่าตัด หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทคืออะไร? หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า “Herniated Disc” เกิดขึ้นเมื่อหมอนรองกระดูกสันหลังที่ทำหน้าที่เป็นตัวกันกระแทกระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อ เกิดการเสื่อมสภาพหรือได้รับบาดเจ็บ เนื้อเยื่อด้านในของหมอนรองกระดูกจะดันตัวออกมา และไปกดทับเส้นประสาทบริเวณใกล้เคียง ส่งผลให้เกิดอาการ: ปวดหลังรุนแรง ปวดร้าวลงขา (Sciatica) อาการชาหรือเสียวซ่า ขาอ่อนแรง เดินไม่มั่นคง ปัญหาการขับถ่าย (ในกรณีรุนแรง) 7 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท 1. อายุที่เพิ่มขึ้นและการเสื่อมตามธรรมชาติ เมื่ออายุมากขึ้น หมอนรองกระดูกจะสูญเสียน้ำและความยืดหยุ่น ทำให้แตกหรือฉีกขาดได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงอายุ 35-55 ปี 2. ท่าทางในการใช้ชีวิตประจำวันที่ผิด นั่งงอหลังเป็นเวลานาน นั่งขัดสมาธิบนพื้นเป็นประจำ นอนดูโทรศัพท์ในท่าที่กระดูกสันหลังโค้ง ยกของโดยใช้หลังแทนขา 3. การยกของหนักในท่าที่ไม่ถูกต้อง การยกของที่มีน้ำหนักมากโดยงอหลัง แทนที่จะงอเข่า เป็นสาเหตุสำคัญที่พบบ่อยในคลินิกรักษากระดูกทับเส้น 4.

Read More »
5 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับอาการปวดแสบร้อนที่คุณอยากรู้

5 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับอาการปวดแสบร้อนที่คุณอยากรู้

คุณเคยรู้สึกเหมือนมีไฟลุกอยู่ในร่างกายไหม? หรือมีความรู้สึกแสบร้อนที่ทำให้คุณทรมานจนแทบทนไม่ไหว? หากคุณกำลังประสบกับอาการปวดแสบร้อน บทความนี้มีคำตอบที่คุณกำลังมองหา! เรามาไขข้อข้องใจกับ 5 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับอาการปวดแสบร้อนกันเลยค่ะ อาการปวดแสบร้อนคืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร? อาการปวดแสบร้อนเป็นความรู้สึกเจ็บปวดชนิดหนึ่งที่ผู้ป่วยมักบรรยายว่าเหมือนถูกไฟลวกหรือน้ำร้อนลวก ซึ่งมักเกิดจากการอักเสบหรือการบาดเจ็บของเส้นประสาท โดยสาเหตุหลักๆ ได้แก่: การบาดเจ็บของเส้นประสาท เช่น จากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โรคเบาหวาน ที่ทำให้เกิดภาวะปลายประสาทเสื่อม โรคออโตอิมมูน เช่น โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) อาการเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อเส้นประสาทส่งสัญญาณผิดปกติไปยังสมอง ทำให้รู้สึกปวดแสบร้อนแม้ไม่มีสิ่งกระตุ้นจากภายนอก อาการปวดแสบร้อนมักเกิดขึ้นที่บริเวณใดของร่างกาย? อาการปวดแสบร้อนสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย แต่บริเวณที่พบบ่อยได้แก่: หลังส่วนล่าง: มักเกิดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หรือโรคกระดูกสันหลังเสื่อม ขาและเท้า: พบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะปลายประสาทเสื่อม คอและไหล่: อาจเกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทบริเวณคอ แขนและมือ: มักพบในผู้ที่มีอาการกระดูกคอเสื่อมหรือหมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาท   มีวิธีบรรเทาอาการปวดแสบร้อนด้วยตัวเองอย่างไรบ้าง? แม้ว่าการรักษาที่ถูกต้องจะต้องปรึกษาแพทย์ แต่คุณสามารถบรรเทาอาการเบื้องต้นได้ด้วยวิธีต่อไปนี้: ประคบเย็น: ช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดแสบร้อนได้ ทายาหรือครีมบรรเทาปวด: เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของ capsaicin หรือ lidocaine ฝึกการหายใจและทำสมาธิ: ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดความเครียด ออกกำลังกายเบาๆ: เช่น การเดิน หรือการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ

Read More »
อาการปวดก้นจากสลักเพชรจม ทำงานไม่ได้? รักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

อาการปวดก้นจากสลักเพชรจม ทำงานไม่ได้? รักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

ปวดก้นทรมานจนท้อใจ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต แก้ไขได้อย่างไร? หากคุณกำลังทุกข์ทรมานกับอาการปวดก้นเรื้อรัง จนไม่สามารถนั่งทำงานได้นาน ลุกก็ปวด นั่งก็ปวด นอนก็ปวด คุณไม่ได้เผชิญกับปัญหานี้เพียงลำพัง มีผู้ป่วยจำนวนมากที่มีอาการปวดก้นจากภาวะสลักเพชรจมหรือกระดูกก้นกบกดทับเส้นประสาท ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานอย่างรุนแรง อาการปวดก้นจากสลักเพชรจมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานออฟฟิศที่ต้องนั่งเป็นเวลานาน หรือผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ความเจ็บปวดนี้อาจรุนแรงถึงขั้นทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ กระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงาน และส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตใจในระยะยาว อะไรคือสาเหตุของอาการปวดก้นจากสลักเพชรจม? สลักเพชรหรือกระดูกก้นกบ (Coccyx) คือกระดูกชิ้นเล็กๆ ที่อยู่ปลายกระดูกกระเบนเหน็บ เมื่อมีการกดทับหรือบาดเจ็บที่บริเวณนี้ เช่น จากการนั่งผิดท่า การล้ม หรือกล้ามเนื้อบริเวณก้นตึงเครียด อาจนำไปสู่ภาวะสลักเพชรจม ส่งผลให้มีการกดทับเส้นประสาทบริเวณก้น ทำให้เกิดอาการปวดก้นเรื้อรัง ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการปวดก้นจากสลักเพชรจม: การนั่งเป็นเวลานานๆ ในท่าเดิม การบาดเจ็บจากการล้มหรือกระแทกบริเวณก้น ความเครียดและการเกร็งกล้ามเนื้อเรื้อรัง อายุที่เพิ่มขึ้นและการเสื่อมของกระดูก น้ำหนักตัวที่มากเกิน ความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกสันหลัง อาการของผู้ที่มีปัญหาปวดก้นจากสลักเพชรจม ผู้ที่มีอาการปวดก้นจากภาวะสลักเพชรจมจะพบกับอาการดังต่อไปนี้: ปวดบริเวณก้นอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อนั่งนานๆ อาการปวดร้าวลงขาหรือบริเวณสะโพก ปวดมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนท่าจากนั่งเป็นยืน อาการชาร่วมด้วยในบางราย ปวดเมื่อถ่ายอุจจาระ นอนทับก้นไม่ได้เพราะปวด อาการปวดเรื้อรังที่ไม่หายไปด้วยการพักผ่อน หลายคนพยายามรักษาด้วยวิธีต่างๆ ทั้งการกินยา นวด ทำกายภาพบำบัด หรือใช้อุปกรณ์รองนั่งพิเศษ

Read More »
ปวดสะโพกร้าลงขา-รักษาที่ไหนดี

ปวดสะโพกร้าวลงขา รักษาที่ไหนดี? คำตอบสำหรับทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัด

อาการปวดสะโพกร้าวลงขา ชาไปถึงปลายเท้า แสบร้อนเหมือนมีไฟช็อต เป็นความทรมานที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตอย่างรุนแรง หลายคนต้องทนทุกข์กับอาการเหล่านี้เป็นแรมเดือนแรมปี ลองผิดลองถูกมาสารพัดวิธี ตั้งแต่ทานยา กายภาพบำบัด จัดกระดูก ฝังเข็ม แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น จนเกิดคำถามในใจว่า ปวดสะโพกร้าวลงขารักษาที่ไหนดี และทางเลือกสุดท้ายคือการผ่าตัดจริงหรือ? สำหรับผู้ที่กำลังมองหาคำตอบและต้องการหลีกเลี่ยงการผ่าตัด บทความนี้คือแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ หมอซันจะมาไขทุกข้อสงสัยและนำเสนอแนวทางการรักษาอาการ ปวดสะโพกร้าวลงขา ไม่ต้องผ่าตัด ที่ให้ผลลัพธ์ยั่งยืนและปลอดภัย โดยอาศัยหลักการแพทย์ที่ทันสมัยและได้รับการยอมรับในระดับสากล ทำความเข้าใจต้นตอของอาการปวดสะโพกร้าวลงขา ก่อนจะไปถึงคำถามที่ว่า ปวดสะโพกร้าวลงขารักษาที่ไหนดี เราต้องเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของอาการเสียก่อน อาการปวดร้าวจากสะโพกลงไปที่ขา หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า Sciatica นั้น ไม่ใช่ชื่อโรค แต่เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการที่ “เส้นประสาทไซอาติก (Sciatic Nerve)” ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย ถูกรบกวน กดทับ หรือเกิดการอักเสบ สาเหตุหลักที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่: หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท (Herniated Disc): แกนคล้ายเจลลี่ของหมอนรองกระดูกปลิ้นออกมาเบียดหรือกดทับเส้นประสาท เป็นสาเหตุที่พบได้ถึง 90% ของผู้ป่วย โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ (Spinal Stenosis): โพรงที่เส้นประสาทวิ่งผ่านเกิดการตีบแคบลงจากการเสื่อมของกระดูกและข้อต่อ ทำให้เกิดแรงกดทับเส้นประสาท กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (Piriformis Syndrome):

Read More »
อาการเข่าเสื่อมระยะแรก รู้ทัน รักษาได้ ไม่ต้องผ่าตัด

อาการเข่าเสื่อมระยะแรก รู้ทัน รักษาได้ ไม่ต้องผ่าตัด

โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงวัย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป การสังเกตอาการเข่าเสื่อมระยะแรกและเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยชะลอการเสื่อมของข้อเข่าและป้องกันไม่ให้อาการลุกลามจนต้องผ่าตัด บทความนี้จะพาคุณทำความรู้จักกับอาการเข่าเสื่อมระยะแรก พร้อมแนวทางการรักษาที่ได้ผล อาการเข่าเสื่อมระยะแรกมีสัญญาณเตือนอย่างไร? อาการเข่าเสื่อมระยะแรกที่ควรสังเกตมีดังนี้: เริ่มมีอาการปวดเข่าเมื่อมีการเคลื่อนไหว เช่น เดิน วิ่ง หรือขึ้นบันได รู้สึกเสียวหัวเข่าเป็นบางครั้งขณะเคลื่อนไหว ข้อเข่าฝืดหรือติดเมื่ออยู่ในท่าเดิมนานๆ มีเสียงดังกรอบแกรบในข้อเข่าเวลาเคลื่อนไหว อาการปวดจะดีขึ้นเมื่อพักการใช้งานข้อเข่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการเข่าเสื่อมระยะแรก ปัจจัยด้านอายุ: ผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงสูง พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย การเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนตามวัย น้ำหนักตัวที่มากเกิน: โรคอ้วนเพิ่มแรงกดทับบนข้อเข่า ทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น เพิ่มความเสี่ยงการอักเสบของข้อ พฤติกรรมการใช้งานข้อเข่าที่ไม่เหมาะสม: การนั่งพับเพียบเป็นเวลานาน การนั่งขัดสมาธิ การคุกเข่าบ่อยๆ การยกของหนักในท่าที่ไม่ถูกต้อง การบาดเจ็บของข้อเข่า: อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา การกระแทกจากอุบัติเหตุ การบาดเจ็บสะสม ปัจจัยทางพันธุกรรม: ประวัติครอบครัวที่มีโรคข้อเข่าเสื่อม ความผิดปกติของโครงสร้างกระดูก วิธีรักษาอาการเข่าเสื่อมระยะแรกที่ได้ผล การรักษาแบบไม่ใช้ยา: ลดกิจกรรมที่กดทับข้อเข่ามากเกินไป ประคบร้อนเพื่อบรรเทาอาการปวด ปรับเปลี่ยนท่าทางการนั่ง ยืน เดิน ควบคุมน้ำหนักตัว ออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาพข้อเข่า การรักษาด้วยยา: ยาพาราเซตามอลสำหรับอาการปวดเล็กน้อย ยาทาเฉพาะที่เพื่อบรรเทาอาการ

Read More »
อาการปวดคอบ่าไหล่ 7 สาเหตุหลักที่คุณอาจไม่เคยรู้

อาการปวดคอบ่าไหล่ 7 สาเหตุหลักที่คุณอาจไม่เคยรู้

คุณเคยรู้สึกปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า และไหล่หรือไม่? หากคำตอบคือใช่ คุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่ประสบปัญหานี้ อาการปวดคอบ่าไหล่เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุคที่เราต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า นอกจากท่าทางการทำงานที่ไม่ถูกต้องแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้เกิดอาการปวดคอบ่าไหล่? วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ 7 สาเหตุหลักของอาการปวดคอบ่าไหล่ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนกัน 1. การนอนท่าไม่ถูกต้อง           หลายคนอาจคิดว่าการนอนเป็นเวลาพักผ่อนของร่างกาย แต่หารู้ไม่ว่าท่านอนที่ไม่ถูกต้องก็สามารถเป็นสาเหตุของอาการปวดคอบ่าไหล่ได้เช่นกัน การนอนโดยใช้หมอนที่สูงหรือแข็งเกินไปอาจทำให้กล้ามเนื้อคอและบ่าตึงตัว นำไปสู่อาการปวดเมื่อตื่นนอน วิธีแก้ไข: เลือกใช้หมอนที่มีความสูงพอเหมาะ รองรับส่วนโค้งของคอได้ดี และพยายามนอนในท่าที่ช่วยให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรง 2. ความเครียดและความวิตกกังวล           ความเครียดไม่เพียงแต่ส่งผลต่อสุขภาพจิตเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อร่างกายด้วย เมื่อเรารู้สึกเครียดหรือวิตกกังวล กล้ามเนื้อมักจะเกร็งตัวโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะบริเวณคอและบ่า ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้ วิธีแก้ไข: ฝึกการผ่อนคลายความเครียด เช่น การทำสมาธิ การฝึกหายใจลึก ๆ หรือการออกกำลังกายเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ 3. การขาดการออกกำลังกาย  

Read More »
ปวดหลัง แบบไหนอันตราย? สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

20 อาการปวดหลังที่ต้องไปพบแพทย์ทันที! อย่าปล่อยให้กลายเป็นโรคร้ายแรง

ปวดหลังไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก – สัญญาณเตือนที่คุณไม่ควรมองข้าม หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีอาการปวดหลังและคิดว่าเป็นแค่ปวดธรรมดา ลองอ่านบทความนี้ให้จบ เพราะปวดหลังบางประเภทอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงที่ไม่ควรปล่อยไว้ จากประสบการณ์การรักษาผู้ป่วยกว่า 18,000 เคส นี่คือ 20 อาการปวดหลังที่เป็นสัญญาণเตือนภัยว่าคุณต้องรีบไปพบแพทย์ทันที ก่อนที่จะสายเกินไป 1. ปวดหลังร้าวลงขา (Sciatica) ปวดหลังร้าวลงขาเป็นสัญญาณหลักของกระดูกทับเส้นประสาท เมื่อมีอาการปวดหลังแล้วร้าวลงขา แสดงว่าเส้นประสาทถูกกดทับ หากปล่อยไว้นานอาจทำให้ชาขาถาวรหรือเดินไม่ได้ อาการที่ต้องระวัง: ปวดจากหลังร้าวลงก้น ต้นขา หรือน่อง อาการชาบริเวณขาหรือเท้า ขาอ่อนแรง เดินไม่มั่นคง 2. ปวดหลังจนเดินไม่ได้ นี่คือสัญญาณที่ร้ายแรงที่สุด อาจเป็นหมอนรองกระดูกปลิ้นกดทับเส้นประสาทอย่างรุนแรง หรือโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ ต้องรีบรักษาทันทีโดยไม่ชักช้า 3. ปวดหลังร่วมกับกลั้นปัสสาวะ/อุจจาระไม่ได้ นี่คือ Cauda Equina Syndrome สภาวะฉุกเฉินทางระบบประสาท ต้องผ่าตัดภายใน 24 ชั่วโมง หากไม่รักษาจะเกิดอัมพาตถาวร 4. ปวดหลังร่วมกับมีไข้ ปวดหลังร่วมกับมีไข้อาจเป็นสัญญาณของ: การติดเชื้อในกระดูกสันหลัง มะเร็งกระจาย การอักเสบของอวัยวะภายใน 5. ปวดหลังร่วมกับน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ น้ำหนักลดลงโดยไม่ได้อดอาหารร่วมกับปวดหลังอาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งที่ต้องตรวจเลือดด่วน 6. ปวดหลังหลังอุบัติเหตุ

Read More »
หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท: เข้าใจปัญหา พร้อมแนวทางการรักษาที่ยั่งยืน

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท: เข้าใจปัญหา พร้อมแนวทางการรักษาที่ยั่งยืน

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องนั่งเป็นเวลานาน หรือผู้ที่ต้องยกของหนักเป็นประจำ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า อาการนี้สามารถรักษาและป้องกันได้ด้วยวิธีที่ยั่งยืน? ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” อย่างละเอียด พร้อมแนะนำวิธีการรักษาที่จะช่วยให้คุณกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทคืออะไร? หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า “ภาวะหมอนรองกระดูกเคลื่อน” (Herniated Disc) เกิดขึ้นเมื่อหมอนรองกระดูกสันหลังซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกันกระแทกระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อ เกิดการเสื่อมสภาพหรือได้รับบาดเจ็บ ทำให้เนื้อเยื่อด้านในของหมอนรองกระดูกดันตัวออกมา และไปกดทับเส้นประสาทบริเวณใกล้เคียง ส่งผลให้เกิดอาการปวด ชา หรืออ่อนแรงตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย สาเหตุของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อายุที่เพิ่มขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น หมอนรองกระดูกจะเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ การยกของหนัก: การยกของในท่าที่ไม่ถูกต้องหรือยกของที่มีน้ำหนักมากเกินไป พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม: การนั่งหรือยืนในท่าที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน น้ำหนักตัวมากเกินไป: ภาวะอ้วนทำให้กระดูกสันหลังต้องรับน้ำหนักมากขึ้น การสูบบุหรี่: ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงหมอนรองกระดูกได้น้อยลง ทำให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น อุบัติเหตุ: การได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังโดยตรง อาการของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อาการของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิดปัญหาและระดับความรุนแรง แต่อาการที่พบได้บ่อยมีดังนี้: ปวดหลังหรือปวดคอ: อาการปวดอาจรุนแรงขึ้นเมื่อเคลื่อนไหว ชาหรือรู้สึกเสียวซ่าตามแขนหรือขา กล้ามเนื้ออ่อนแรง: อาจมีปัญหาในการยกของหรือเดิน ปวดร้าวลงขา (Sciatica): หากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท Sciatic ปัญหาการควบคุมการขับถ่าย: ในกรณีที่รุนแรง

Read More »
8 วิธีบรรเทาอาการปวดเข่า แนวทางในการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด

8 วิธีบรรเทาอาการปวดเข่า แนวทางในการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด

อาการปวดเข่า เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและนักกีฬา แม้ว่าการผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกในการรักษา แต่หลายคนมองหาวิธีธรรมชาติในการบรรเทาอาการปวดเข่า บทความนี้จะแนะนำวิธีต่างๆ ที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้านเพื่อลดอาการปวดเข่าโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบเข่า การมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงรอบๆ ข้อเข่าช่วยลดแรงกดทับที่เข่าต้องรับ ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดเข่าได้ ท่าออกกำลังกายที่แนะนำ ได้แก่: การยกขาตรง (Straight Leg Raises) การงอเข่า (Hamstring Curls) การนั่งยืดเข่า (Seated Knee Extensions) การเดินลงบันได (Step-ups) ควรทำแต่ละท่า 10-15 ครั้ง 2-3 เซ็ตต่อวัน แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดก่อนเริ่มโปรแกรมออกกำลังกายใหม่ โดยเฉพาะถ้าคุณมีอาการปวดเข่าอยู่แล้ว การยืดกล้ามเนื้อและเพิ่มความยืดหยุ่น การยืดกล้ามเนื้อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและลดความตึงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดเข่าได้ ท่ายืดที่แนะนำ ได้แก่: การยืดกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า (Quadriceps Stretch) การยืดกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (Hamstring Stretch) การยืดกล้ามเนื้อน่อง (Calf Stretch) ควรยืดค้างไว้ 15-30 วินาทีต่อท่า และทำซ้ำ 2-3 ครั้ง อย่างน้อยวันละ 1

Read More »
รักษากระดูกทับเส้นอย่างยั่งยืน ไม่ต้องกลับมาเป็นซ้ำ ลองใช้วิธีนี้

รักษากระดูกทับเส้นอย่างยั่งยืน ไม่ต้องกลับมาเป็นซ้ำ ลองใช้วิธีนี้

กระดูกทับเส้นเป็นปัญหาสุขภาพที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างยากลำบาก หลายคนต้องทนกับความเจ็บปวดมาเป็นเวลานาน แม้จะรักษามาหลายวิธีแล้วก็ตาม ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงวิธีการรักษากระดูกทับเส้นอย่างยั่งยืน ที่ช่วยให้คุณหายปวดได้จริงโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด   หลักการสำคัญในการรักษากระดูกทับเส้นอย่างยั่งยืน 1.การรับประทานยาอย่างถูกวิธี: ครบ ถูก ถึง การรับประทานยาเป็นหัวใจสำคัญของการรักษากระดูกทับเส้นอย่างยั่งยืน โดยยึดหลัก 3 ประการ ได้แก่: ให้ครบ: รับประทานยาให้ครบทุกชนิดตามที่แพทย์สั่ง ทั้งยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ และยาลดการอักเสบ โดยไม่ตัดยาตัวใดตัวหนึ่งออก ให้ถูก: รับประทานยาให้ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์ ทั้งขนาดและเวลา รวมถึงต้องเป็นยาที่ปลอดภัยต่อตับและไต ให้ถึง: รับประทานยาในปริมาณที่เพียงพอต่อการรักษาโรค ไม่หยุดยาเองเมื่อรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย ควรทานต่อเนื่องจนครบคอร์สตามที่แพทย์กำหนด 2.การฝังเข็ม การฝังเข็มเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษากระดูกทับเส้นอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการฝังเข็มที่ดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและฟื้นฟูการทำงานของเส้นประสาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3.การใช้อาหารเสริมเพื่อบำรุงกระดูกและข้อ อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนไทป์ทู  โปรตีโอไกลแคน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการบำรุงกระดูกและข้อ สามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของอาการกระดูกทับเส้นได้ 4.การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและลดปัจจัยเสี่ยง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การนั่งและยืนอย่างถูกวิธี การหลีกเลี่ยงการยกของหนัก และการรักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ล้วนเป็นส่วนสำคัญในการรักษากระดูกทับเส้นอย่างยั่งยืน 5.การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การออกกำลังกายที่เหมาะสม โดยเน้นการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังและท้อง รวมถึงการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ จะช่วยลดอาการปวดและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของกระดูกทับเส้นได้ ความสำเร็จในการรักษากระดูกทับเส้นอย่างยั่งยืน จากประสบการณ์ของคนไข้หลายราย

Read More »