บทความ

อาหารต้านการอักเสบ 15 เมนูเด็ด! ช่วยให้หายปวด ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไป

อาหารต้านการอักเสบ 15 เมนูเด็ด! ช่วยให้หายปวด ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไป

หมอเห็นคนไข้ผู้สูงอายุหลายท่านทนทุกข์ทรมานกับอาการปวดเรื้อรังมานาน บางคนถึงกับร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ทำให้หมอรู้สึกสะเทือนใจมากๆ แต่วันนี้! หมอมีแนวทางดีๆ มาฝาก หมอได้ค้นคว้าเพื่อหาวิธีช่วยเหลือคนไข้ที่หมอรักทุกคน และพบว่ามีอาหาร 15 อย่างที่ช่วยต้านการอักเสบได้จริง! มาดูกันเลยนะครับว่ามีอะไรบ้าง: 1.ซุปฟักทอง คุณรู้ไหมครับว่า ซุปฟักทองนุ่มๆ ชามนี้ มีพลังมหัศจรรย์ในการต้านการอักเสบ? งานวิจัยล่าสุดพบว่า เบต้าแคโรทีนในฟักทองช่วยลดการอักเสบในกระดูกอ่อนได้จริงๆ นะครับ! 2. ปลาแซลมอนนึ่ง   โอ้โห! นี่ไม่ใช่แค่ปลาธรรมดานะครับ แต่เป็น “ยา” ชั้นดีเลยล่ะ! โอเมก้า-3 ในปลาแซลมอนช่วยลดอาการปวดในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมได้อย่างน่าทึ่ง 3. โยเกิร์ตกรีกผสมเบอร์รี่สด นี่คือ “ซุปเปอร์ฟู้ด” ตัวจริงเลยครับ! โปรไบโอติกในโยเกิร์ตและสารต้านอนุมูลอิสระในเบอร์รี่ ทำงานร่วมกันเพื่อลดการอักเสบทั้งในระบบย่อยอาหารและข้อต่อ   4. ข้าวต้มปลา อาหารไทยๆ ของเราก็เด็ดไม่แพ้ใครนะครับ! งานวิจัยชี้ชัด การกินปลาเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของโรคข้อเสื่อมได้ 5. สลัดผักใบเขียวกับอะโวคาโด  สลัดจานนี้ไม่ใช่แค่อาหารคลีน แต่เป็น “ยาอายุวัฒนะ” เลยนะครับ! ผักใบเขียวและอะโวคาโดช่วยลดระดับสารบ่งชี้การอักเสบในเลือดได้จริง 6. ไข่ตุ๋นกับผักโขม เมนูง่ายๆ แต่ประโยชน์ล้นเหลือเลยครับ! โปรตีนคุณภาพสูงจากไข่ผสมกับสารต้านอนุมูลอิสระจากผักโขม

Read More »
ทาลเลือกในการรักษาอาการปวดคอบ่าไหล่ด้วยการฝังเข็ม

ทางเลือกในการรักษาอาการปวดคอบ่าไหล่ด้วยการฝังเข็ม

อาการปวดคอบ่าไหล่เป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้ที่ทำงานออฟฟิศและผู้ที่ต้องอยู่ในท่าทางเดิมเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในช่วงอายุ 40-60 ปี ซึ่งเป็นวัยที่ร่างกายเริ่มมีการเสื่อมตามวัย หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ อาจกำลังเผชิญกับปัญหาปวดคอบ่าไหล่: ปวดตึงที่คอ บ่า และไหล่ มีอาการเจ็บร้าวไปยังแขนหรือนิ้วมือ รู้สึกชาบริเวณบ่า แขน หรือมือ เคลื่อนไหวคอได้จำกัด มีอาการปวดตื้อๆ ที่ศีรษะ ปวดเรื้อรังที่ไม่หายไปแม้จะพักผ่อนหรือทานยาแก้ปวด อาการปวดคอบ่าไหล่เรื้อรังอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น กระดูกคอเสื่อม หมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาท หรือกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง ซึ่งการรักษาด้วยวิธีแพทย์แผนปัจจุบันอาจไม่ได้ผลในบางกรณี หรืออาจต้องพึ่งการผ่าตัดซึ่งมีความเสี่ยงและต้องการเวลาในการฟื้นฟู   การฝังเข็ม: ทางเลือกการรักษาอาการปวดคอบ่าไหล่ที่ได้ผล การฝังเข็มเป็นศาสตร์การรักษาโบราณที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลสำหรับการบรรเทาอาการปวด โดยเฉพาะอาการปวดคอบ่าไหล่ ด้วยเทคนิคพิเศษที่ผสมผสานระหว่างการแพทย์แผนจีนและแผนปัจจุบัน การฝังเข็มสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย กลไกการทำงานของการฝังเข็มในการรักษาอาการปวดคอบ่าไหล่ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด: การฝังเข็มช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังบริเวณที่ปวด ทำให้เกิดการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บได้ดีขึ้น ลดการอักเสบ: เข็มที่ฝังลงไปช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารต้านการอักเสบธรรมชาติ ลดอาการปวดและการอักเสบบริเวณคอบ่าไหล่ คลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียด: ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งตัวซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดคอบ่าไหล่ กระตุ้นการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน: การฝังเข็มกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารระงับปวดธรรมชาติของร่างกาย ปรับสมดุลพลังงานในร่างกาย: ตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน การฝังเข็มช่วยปรับสมดุลพลังชี่ที่ไหลเวียนตามเส้นลมปราณ ช่วยให้ร่างกายกลับสู่ภาวะสมดุล ข้อดีของการฝังเข็มสำหรับผู้ที่มีอาการปวดคอบ่าไหล่ ไม่ต้องผ่าตัด: การฝังเข็มเป็นทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเข้ารับการผ่าตัดเนื่องจากความเสี่ยงหรือเวลาในการฟื้นฟู ฟื้นตัวเร็ว: หลังการรักษาด้วยการฝังเข็ม คนไข้สามารถกลับไปทำงานหรือทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที

Read More »
อาการข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ: สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

อาการข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ: สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

ข้อเข่าเสื่อม เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก การรู้จักสังเกตอาการเบื้องต้นจะช่วยให้ได้รับการรักษาทันท่วงที ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น มาดูกันว่าอาการข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง 1. ปวดเข่าเรื้อรัง อาการปวดเข่าเป็นสัญญาณเตือนสำคัญของภาวะข้อเข่าเสื่อม ผู้ป่วยมักมีอาการปวดตื้อๆ บริเวณข้อเข่า โดยเฉพาะเวลาเคลื่อนไหวหรือลงน้ำหนัก บางรายอาจมีอาการปวดแม้ขณะพัก ความเจ็บปวดอาจรุนแรงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันลำบากมากขึ้น 2. ข้อฝืดตึง ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมมักรู้สึกว่าข้อเข่าฝืดหรือตึง โดยเฉพาะในตอนเช้าหลังตื่นนอนใหม่ๆ หรือหลังจากนั่งพักเป็นเวลานาน การขยับเข่าในช่วงแรกจะรู้สึกติดขัด ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเคลื่อนไหวได้คล่องตัว อาการฝืดตึงนี้เกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนผิวข้อและการอักเสบภายในข้อเข่า 3. เสียงดังในข้อเข่า เมื่อเคลื่อนไหวข้อเข่า ผู้ป่วยอาจได้ยินเสียงดังกรอบแกรบ หรือรู้สึกถึงการเสียดสีภายในข้อ เสียงเหล่านี้เกิดจากพื้นผิวข้อที่ขรุขระไม่เรียบเนียนเสียดสีกัน บ่งบอกถึงการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนผิวข้อ ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของโรคข้อเข่าเสื่อม 4. ข้อบวม ในบางราย อาจสังเกตเห็นว่าบริเวณรอบๆ ข้อเข่ามีอาการบวม โดยเฉพาะหลังจากทำกิจกรรมที่ต้องใช้งานเข่ามาก อาการบวมนี้เกิดจากการอักเสบและการสร้างน้ำไขข้อมากเกินปกติ เพื่อตอบสนองต่อการเสื่อมสภาพของข้อ 5. ข้อผิดรูป เมื่อโรคดำเนินไประยะหนึ่ง อาจสังเกตเห็นว่าข้อเข่ามีลักษณะผิดรูปไปจากเดิม เช่น ขาโก่งเข้าด้านใน (เข่าฉิ่ง) หรือโก่งออกด้านนอก (เข่าโอ) ซึ่งเกิดจากการสึกกร่อนของกระดูกอ่อนผิวข้อที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้แนวกระดูกเปลี่ยนไป 6. กล้ามเนื้อรอบเข่าอ่อนแรง ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมมักมีอาการกล้ามเนื้อต้นขาอ่อนแรง เนื่องจากใช้งานน้อยลงเพราะความเจ็บปวด ส่งผลให้การทรงตัวไม่ดี

Read More »
3 วิธีแก้ปวดแสบร้อน ที่อาจจะไม่มีหมอที่ไหนมาบอกคุณ

อาการปวดแสบร้อน คือสัญญาณเตือนภัยที่ร่างกายส่งมาบอกคุณ

หากคุณกำลังทุกข์ทรมานจากอาการ ปวดแสบร้อน ที่หลัง คอ หรือขา และรู้สึกเหมือนมีไฟเผาอยู่ข้างใน คุณไม่ได้เผชิญกับปัญหานี้เพียงลำพัง สถิติพบว่ามีผู้ป่วยกว่า 2 ล้านคนในประเทศไทยที่ประสบปัญหาเดียวกัน หลายคนต้องทนทุกข์มานานนับสิบปี จนเคยชินกับความเจ็บปวดจนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ความจริงคือ… อาการปวดแสบร้อนเป็นสัญญาณเตือนที่ร่างกายส่งมาบอกคุณ ว่าเส้นประสาทกำลังตกอยู่ในอันตราย และหากปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่ความเสียหายถาวรได้ อาการปวดแสบร้อนมักเกิดจากการที่เส้นประสาทถูกกดทับหรือระคายเคือง โดยสาเหตุหลักๆ มาจาก: หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท – เมื่อหมอนรองกระดูกเสื่อมหรือเลื่อนตำแหน่ง จะไปกดทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการ ปวดแสบร้อน ร้าวไปตามเส้นประสาท กระดูกสันหลังเสื่อม – การเสื่อมของกระดูกสันหลังทำให้เกิดหนามกระดูกที่อาจไปกดทับเส้นประสาท การอักเสบของเส้นประสาท – เส้นประสาทที่อักเสบจะส่งสัญญาณความเจ็บปวดแบบแสบร้อนอย่างต่อเนื่อง กล้ามเนื้อเกร็งตัวกดทับเส้นประสาท – กล้ามเนื้อที่เกร็งตัวเรื้อรังอาจไปกดทับเส้นประสาทที่ผ่าน โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ – ช่องที่เส้นประสาทผ่านแคบลง ทำให้เส้นประสาทถูกกดทับ 3 วิธีแก้ปวดแสบร้อน 1. การรักษาด้วยการฝังเข็ม การฝังเข็ม โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดแสบร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีนี้: ช่วยลดการอักเสบของเส้นประสาท คลายกล้ามเนื้อที่เกร็งตัว กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการปวดโดยไม่ต้องพึ่งยา 2. การใช้ยาตามหลัก “ให้ครบ ให้ถูก

Read More »
โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท รักษานานแค่ไหนถึงจะหาย?

โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท รักษานานแค่ไหนถึงจะหาย?

หากคุณกำลังทุกข์ทรมานจากอาการปวดหลัง ร้าวลงขา และสงสัยว่าเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท คำถามที่มักพบบ่อยคือ “รักษานานแค่ไหนถึงจะหาย?” บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยทั้งหมดเกี่ยวกับระยะเวลาการรักษาและทางเลือกในการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณ ระยะเวลาการรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เรื่องที่น่ายินดีคือ ผู้ป่วยโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทประมาณ 85-90% มีโอกาสหายได้เองโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 6-12 สัปดาห์ในการฟื้นตัว ทั้งนี้ระยะเวลาการรักษาจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น: ความรุนแรงของอาการ อายุของผู้ป่วย สภาพร่างกายโดยรวม การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ วิธีการรักษาที่เลือกใช้ อาการที่บ่งบอกว่าคุณเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ผู้ป่วยมักมีอาการสำคัญดังต่อไปนี้: ปวดหลังส่วนล่างอย่างรุนแรง มีอาการปวดร้าวลงขาตามแนวเส้นประสาท มีอาการชาตามขาหรือเท้า กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง เคลื่อนไหวลำบาก โดยเฉพาะการงอหลัง อาการปวดเพิ่มขึ้นเมื่อไอ จาม หรือนั่งนานๆ สัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบแพทย์ทันที แม้ว่าโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนใหญ่จะสามารถรักษาได้ แต่มีบางอาการที่ถือเป็นสัญญาณอันตราย ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน: มีไข้ร่วมกับอาการปวดหลัง มีอาการชาบริเวณทวารหนัก (saddle anesthesia) อาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ปวดรุนแรงในเวลากลางคืนหรือขณะพัก มีประวัติโรคมะเร็งหรือกระดูกพรุน แนวทางการรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท 1. การรักษาแบบไม่ผ่าตัด (ระยะเวลา 6-12 สัปดาห์) การรักษาในระยะแรกมักเริ่มด้วยวิธีอนุรักษ์นิยม ประกอบด้วย: การพักการใช้งานหลังอย่างเหมาะสม การรับประทานยาแก้ปวดและลดการอักเสบ

Read More »
5 สัญญาณเตือนของสลักเพชรจม ที่คนมีปัญหาปวดหลังต้องรู้

5 สัญญาณเตือนสลักเพชรจม ที่คนมีปัญหาปวดหลังต้องรู้

คุณเคยรู้สึกปวดหลังแบบทรมานจนต้องหยุดทำกิจกรรมที่รัก? หรือเคยตื่นมากลางดึกเพราะความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วหลัง? ถ้าใช่ คุณอาจกำลังเผชิญกับปัญหา “สลักเพชรจม” โดยไม่รู้ตัว ทำไมต้องรู้จักสลักเพชรจม? สลักเพชรจมเป็นภาวะที่ข้อต่อสลักเพชรเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาท ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรัง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงขึ้นได้ การรู้จักสัญญาณเตือนของสลักเพชรจมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้รับการรักษาที่เหมาะสมและทันท่วงที 5 สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าคุณอาจมีปัญหาสลักเพชรจม ปวดหลังส่วนล่างเรื้อรัง สัญญาณแรกที่บ่งบอกว่าคุณอาจมีปัญหาสลักเพชรจม คือ อาการปวดหลังส่วนล่างที่ไม่หายไปสักที แม้จะพักผ่อนหรือทานยาแก้ปวดแล้วก็ตาม หากคุณมีอาการปวดหลังติดต่อกันนานกว่า 3 เดือน นี่อาจเป็นสัญญาณว่าสลักเพชรของคุณกำลังมีปัญหา อาการปวดร้าวลงขา สลักเพชรจมอาจกดทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวดร้าวลงไปตามขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง บางคนอาจรู้สึกเหมือนไฟฟ้าช็อต หรือมีอาการชาร่วมด้วย หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว อาการปวดรุนแรงขึ้นเมื่อนั่งนานๆ คนที่มีปัญหาสลักเพชรจมมักจะรู้สึกปวดหลังมากขึ้นเมื่อต้องนั่งเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อนั่งบนเก้าอี้นุ่มๆ เพราะท่านั่งทำให้มีแรงกดทับบริเวณสลักเพชรมากขึ้น หากคุณต้องลุกขึ้นยืนบ่อยๆ เพื่อบรรเทาอาการปวด นี่อาจเป็นสัญญาณของสลักเพชรจม อาการปวดเมื่อยตอนเช้า หากคุณรู้สึกปวดหลังอย่างมากในตอนเช้าหลังตื่นนอน และต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเคลื่อนไหวได้สะดวก นี่อาจเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของสลักเพชรจม เนื่องจากการนอนเป็นเวลานานอาจทำให้กล้ามเนื้อและเอ็นบริเวณสลักเพชรตึงตัว อาการปวดเพิ่มขึ้นเมื่อไอหรือจาม หากคุณรู้สึกปวดหลังอย่างรุนแรงทันทีเมื่อไอหรือจาม นี่อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าสลักเพชรของคุณกำลังมีปัญหา เพราะการไอหรือจามทำให้เกิดแรงดันภายในช่องท้อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสลักเพชรที่กำลังมีปัญหาอยู่แล้ว หากคุณพบว่าตัวเองมีอาการเหล่านี้ 2-3 ข้อขึ้นไป ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม  ทำอย่างไรเมื่อสงสัยว่ามีปัญหาสลักเพชรจม? หากคุณพบสัญญาณเตือนเหล่านี้

Read More »
ท่าบริหารเข่าเสื่อม ช่วยลดปวดและฟื้นฟูข้อเข่า

ท่าบริหารเข่าเสื่อม ช่วยลดปวดและฟื้นฟูข้อเข่า

คุณกำลังทนทุกข์กับอาการปวดเข่าหรือข้อเข่าเสื่อมอยู่หรือไม่? หากใช่ คุณไม่ได้เผชิญกับปัญหานี้เพียงลำพัง ข้อเข่าเสื่อมเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุและผู้ที่มีน้ำหนักเกิน แต่ไม่ต้องกังวล! มีวิธีการบริหารร่างกายที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและฟื้นฟูข้อเข่าของคุณได้ ในบทความนี้ เราจะแนะนำท่าบริหารเข่าเสื่อมที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งคุณสามารถทำได้ที่บ้านเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคุณ ทำไมการบริหารร่างกายจึงสำคัญสำหรับผู้ที่มีปัญหาเข่าเสื่อม? ก่อนที่เราจะเริ่มต้นกับท่าบริหาร มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมการออกกำลังกายจึงมีความสำคัญสำหรับผู้ที่มีปัญหาเข่าเสื่อม: เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า เพิ่มความยืดหยุ่นและช่วงการเคลื่อนไหวของข้อเข่า ลดอาการปวดและการอักเสบ ปรับปรุงการทรงตัวและลดความเสี่ยงในการหกล้ม ชะลอการเสื่อมของข้อเข่า ท่าบริหารเข่าเสื่อมที่แนะนำ 1. ท่ายืดกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า (Quadriceps Stretch) ยืนตรง ใช้มือจับเก้าอี้หรือผนังเพื่อพยุงตัว งอเข่าข้างหนึ่ง ใช้มืออีกข้างจับข้อเท้า ดึงส้นเท้าเข้าหาก้น รู้สึกถึงการยืดที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า ค้างไว้ 15-30 วินาที แล้วสลับข้าง ทำซ้ำ 3-5 ครั้งต่อข้าง 2. ท่ายกขาตรง (Straight Leg Raises) นอนหงายบนพื้น เหยียดขาข้างหนึ่งตรง อีกข้างงอเข่าวางเท้าราบกับพื้น ยกขาที่เหยียดตรงขึ้นประมาณ 15-20 เซนติเมตร ค้างไว้ 5 วินาที แล้วค่อยๆ ลดลง ทำซ้ำ 10-15 ครั้งต่อข้าง 3.

Read More »
10 สัญญาณเตือนว่าคุณควรเริ่มทานอาหารเสริมบำรุงข้อเข่า

10 สัญญาณเตือนว่าคุณควรเริ่มทานอาหารเสริมบำรุงข้อเข่า

ข้อเข่าเป็นส่วนสำคัญของร่างกายที่ช่วยให้เราเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว แต่เมื่อเวลาผ่านไป ข้อเข่าอาจเสื่อมสภาพและเกิดปัญหาต่างๆ ได้ การสังเกตสัญญาณเตือนเหล่านี้จะช่วยให้คุณรู้ว่าถึงเวลาที่ควรเริ่มดูแลสุขภาพข้อเข่าด้วยอาหารเสริมแล้วหรือยัง มาดูกัน 10 สัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่าคุณควรเริ่มทานอาหารเสริมบำรุงข้อเข่า 1. ปวดเข่าเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังการใช้งาน           หากคุณรู้สึกปวดเข่าบ่อยครั้ง โดยเฉพาะหลังจากเดินหรือออกกำลังกาย นี่อาจเป็นสัญญาณแรกที่บ่งบอกว่าข้อเข่าของคุณกำลังเสื่อมสภาพ อาหารเสริมบำรุงข้อเข่า เช่น DrSUN4in1 สามารถช่วยลดอาการปวดและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับข้อเข่าได้ 2. ข้อเข่าฝืดหรือตึง โดยเฉพาะตอนเช้า           เมื่อตื่นนอนตอนเช้า คุณรู้สึกว่าข้อเข่าฝืดหรือตึงหรือไม่? อาการนี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะข้อเข่าเสื่อม การทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน และโปรติโอไกลแคน จะช่วยดึงน้ำเข้าข้อเข่า เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับข้อเข่าได้ 3. มีเสียงดังในข้อเข่าเวลาเคลื่อนไหว         เสียง “กรอบแกรบ” หรือ “ก๊อกแก๊ก” จากข้อเข่าเวลาเคลื่อนไหว อาจเป็นสัญญาณว่ากระดูกอ่อนในข้อเข่ากำลังเสื่อมสภาพ แนะนำทานอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงกระดูกอ่อนและลดเสียงดังในข้อเข่าได้ 4. อาการบวมที่ข้อเข่า    

Read More »
อาการปวดคอบ่าไหล่ 7 สาเหตุหลักที่คุณอาจไม่เคยรู้

อาการปวดคอบ่าไหล่ 7 สาเหตุหลักที่คุณอาจไม่เคยรู้

คุณเคยรู้สึกปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า และไหล่หรือไม่? หากคำตอบคือใช่ คุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่ประสบปัญหานี้ อาการปวดคอบ่าไหล่เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุคที่เราต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า นอกจากท่าทางการทำงานที่ไม่ถูกต้องแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้เกิดอาการปวดคอบ่าไหล่? วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ 7 สาเหตุหลักของอาการปวดคอบ่าไหล่ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนกัน 1. การนอนท่าไม่ถูกต้อง           หลายคนอาจคิดว่าการนอนเป็นเวลาพักผ่อนของร่างกาย แต่หารู้ไม่ว่าท่านอนที่ไม่ถูกต้องก็สามารถเป็นสาเหตุของอาการปวดคอบ่าไหล่ได้เช่นกัน การนอนโดยใช้หมอนที่สูงหรือแข็งเกินไปอาจทำให้กล้ามเนื้อคอและบ่าตึงตัว นำไปสู่อาการปวดเมื่อตื่นนอน วิธีแก้ไข: เลือกใช้หมอนที่มีความสูงพอเหมาะ รองรับส่วนโค้งของคอได้ดี และพยายามนอนในท่าที่ช่วยให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรง 2. ความเครียดและความวิตกกังวล           ความเครียดไม่เพียงแต่ส่งผลต่อสุขภาพจิตเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อร่างกายด้วย เมื่อเรารู้สึกเครียดหรือวิตกกังวล กล้ามเนื้อมักจะเกร็งตัวโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะบริเวณคอและบ่า ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้ วิธีแก้ไข: ฝึกการผ่อนคลายความเครียด เช่น การทำสมาธิ การฝึกหายใจลึก ๆ หรือการออกกำลังกายเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ 3. การขาดการออกกำลังกาย  

Read More »
ปวดคอร้าวลงแขน: สาเหตุ อาการ และวิธีรักษา

ปวดคอร้าวลงแขน: สาเหตุ อาการ และวิธีรักษา

อาการปวดคอร้าวลงแขน เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในคนวัยทำงานที่ต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรือผู้สูงอายุที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกคอเสื่อม อาการนี้สามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างยากลำบาก สาเหตุของอาการปวดคอร้าวลงแขน สาเหตุหลักๆ ของอาการปวดคอร้าวลงแขน มักเกิดจาก: หมอนรองกระดูกคอเสื่อมหรือเคลื่อน: ทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทบริเวณคอ ส่งผลให้มีอาการปวดร้าวลงไปที่แขนและมือ กระดูกงอกกดทับเส้นประสาท: เกิดจากการเสื่อมของกระดูกคอตามวัย ทำให้มีกระดูกงอกไปกดทับเส้นประสาท กล้ามเนื้อคอตึงหรืออักเสบ: อาจเกิดจากท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสม หรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์: ทำให้เกิดการอักเสบของข้อต่อกระดูกคอ ส่งผลให้มีอาการปวดร้าวลงแขน อาการที่พบร่วมกับปวดคอร้าวลงแขน นอกจากอาการปวดที่คอและร้าวลงไปที่แขนแล้ว ผู้ป่วยอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น: ชาบริเวณแขนหรือมือ กล้ามเนื้อแขนอ่อนแรง ปวดบริเวณไหล่ เวลาเคลื่อนไหวคอจะมีเสียงดังกรอบแกรบ ปวดศีรษะบริเวณท้ายทอย   วิธีการรักษาอาการปวดคอร้าวลงแขน การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ โดยทั่วไปมีวิธีการรักษาดังนี้: 1.การรักษาแบบอนุรักษ์นิยม: รับประทานยาแก้ปวดและยาลดการอักเสบ ประคบร้อน-เย็นสลับกัน การทำกายภาพบำบัด เพื่อบริหารกล้ามเนื้อคอและไหล่ การฝังเข็ม ซึ่งช่วยลดอาการปวดและคลายกล้ามเนื้อได้ดี 2.การรักษาด้วยการฝังเข็ม หนึ่งในวิธีการรักษาที่ได้ผลดีสำหรับอาการปวดคอร้าวลงแขน คือการฝังเข็ม ซึ่งวิธีนี้สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องผ่าตัด ข้อดีของการฝังเข็ม: ไม่ต้องผ่าตัด ลดความเสี่ยงจากการดมยาสลบ ฟื้นตัวเร็ว สามารถกลับไปทำงานได้ในเวลาอันสั้น ผลข้างเคียงน้อย เมื่อเทียบกับการใช้ยาหรือการผ่าตัด

Read More »
ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้น: กินอย่างไรให้หายปวดและหลีกเลี่ยงการผ่าตัด

ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้น: กินอย่างไรให้หายปวดและหลีกเลี่ยงการผ่าตัด

อาการปวดจากกระดูกทับเส้นประสาท เป็นปัญหาที่พบบ่อยและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก หลายคนมักพึ่งพายาแก้ปวดเป็นทางออกแรก แต่การใช้ยาอย่างไม่ถูกต้องอาจไม่ช่วยบรรเทาอาการ และอาจนำไปสู่การผ่าตัดที่ไม่จำเป็น บทความนี้จะแนะนำวิธีการใช้ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้นอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้หายปวดและลดโอกาสต้องผ่าตัด หลักการสำคัญในการใช้ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้น อาการนี้เกิดขึ้นเมื่อกระดูกสันหลังหรือหมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพ ทำให้กดทับเส้นประสาท ส่งผลให้เกิดอาการปวด ชา หรือรู้สึกอ่อนแรงตามแขนหรือขา ซึ่งการทานยาตามหลัก “ให้ครบ ให้ถูก ให้ถึง” เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยบรรเทาความปวดหายแบบยั่งยืน และลดโอกาสการผ่าตัด: ให้ครบ: ใช้ยาแก้ปวดให้ครอบคลุมทุกกลไกการเกิดอาการปวด ให้ถูก: เลือกชนิดและขนาดยาที่เหมาะสมกับอาการและสภาพร่างกายของผู้ป่วย ให้ถึง: ใช้ยาในปริมาณที่เพียงพอต่อการบรรเทาอาการปวด   ยาแก้ปวดที่ควรใช้ในการรักษากระดูกทับเส้น พาราเซตามอล: ช่วยลดอาการปวดและลดไข้ เป็นยาพื้นฐานที่ค่อนข้างปลอดภัย ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs: เช่น ไอบูโพรเฟน นาโพรเซน ช่วยลดการอักเสบและบรรเทาปวด แต่ต้องระวังผลข้างเคียงต่อกระเพาะอาหารและไต ยาคลายกล้ามเนื้อ: ช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อที่มักเกิดร่วมกับอาการปวดจากกระดูกทับเส้น ยาแก้ปวดเส้นประสาท: เช่น กาบาเพนติน พรีกาบาลิน ช่วยบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากการระคายเคืองของเส้นประสาท ข้อควรระวังในการใช้ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้น หลีกเลี่ยงการใช้ยาสเตียรอยด์เป็นประจำ เนื่องจากมีผลข้างเคียงสูง ระวังการใช้ยาในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคตับ ไม่ควรใช้ยาในขนาดเท่าเดิมเป็นเวลานานโดยไม่ปรึกษาแพทย์ วิธีการใช้ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้นให้ได้ผลดี เริ่มจากยาพื้นฐานอย่างพาราเซตามอล

Read More »
คลินิกรักษาอาการปวดเข่า: ทางออกสู่ชีวิตที่หายปวดโดยไม่ต้องผ่าตัด

เข่าเสื่อม ทำไงดี? 4 ท่าง่าย ๆ แก้ปวดเข่าเสียงดังในข้อ ไม่ต้องผ่าตัด

เข่าเสื่อมแล้วยังไงดี? เหตุผลที่ทำให้คุณปวดเข่า และไม่สามารถเดินได้เหมือนเดิม คุณเคยรู้สึกไหมว่าเข่าของคุณเริ่มมีเสียงดังเวลาลุกยืน? หรือรู้สึกว่าเดินไม่ได้ไกลเหมือนเดิม? บางครั้งการลงบันไดหรือนั่งขัดสมาธิกลายเป็นเรื่องที่ทำให้คุณต้องทนความเจ็บปวด หากคุณกำลังเผชิญกับอาการ ปวดเข่า หรือ ข้อเข่าเสื่อม อย่าคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับคนมีอายุ หรือเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ เพราะวันนี้เราจะแบ่งปัน 4 ท่าง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณกลับมาเดินได้อย่างปกติ ลดอาการปวด และที่สำคัญ ไม่ต้องผ่าตัด ทำไมเข่าของคุณถึงเสื่อมโดยไม่รู้ตัว? 1. กระดูกอ่อนเข่าสึกหรอมากขึ้นทุกวัน เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกอ่อนที่คอยช่วยกันกระแทกและรองรับแรงกดที่ข้อเข่าจะเริ่มสึกหรอ ทำให้กระดูกขาบนและขาล่างเสียดสีกัน เกิดอาการ ปวดเข่า และมีเสียงดังในข้อ 2. น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นแม้เพียง 5 กิโลกรัม จะเพิ่มแรงกดที่ข้อเข่าประมาณ 15-20 กิโลกรัม เมื่อเดิน และมากกว่า 40 กิโลกรัม เมื่อขึ้นลงบันได 3. กล้ามเนื้อโดยรอบเข่าอ่อนแรง การไม่ออกกำลังกายหรือไม่ใช้ขาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้กล้ามเนื้อต้นขาและน้องขาอ่อนแรง ไม่สามารถพยุงข้อเข่าให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ทำลายเข่า นั่งขัดสมาธิหรือคุกเข่าเป็นเวลานาน ใส่รองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าที่ไม่เหมาะสม ทำงานที่ต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานานโดยไม่พัก สัญญาณเตือนที่บอกว่า “เข่าเสื่อม” ของคุณต้องรีบรักษา

Read More »