บทความ

ข้อเข่าเสื่อม รักษาหายไหม? แนวทางการรักษาที่คุณต้องรู้

ข้อเข่าเสื่อม รักษาหายไหม? แนวทางการรักษาที่คุณต้องรู้

ข้อเข่าเสื่อมคืออะไร? ข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) เป็นภาวะที่กระดูกอ่อนผิวข้อเข่าเสื่อมสภาพลง ทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างกระดูก ส่งผลให้เกิดการอักเสบและปวด โดยพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ และผู้ที่ต้องใช้งานข้อเข่ามาก อาการของข้อเข่าเสื่อม อาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม: ปวดเข่าเวลาเดิน โดยเฉพาะเวลาขึ้น-ลงบันได ข้อฝืดตึงตอนเช้าหรือหลังนั่งนาน เข่าบวม เสียงดังกรอบแกรบเวลาเคลื่อนไหว งอเข่าได้น้อยลง เดินลำบาก ข้อเข่าเสื่อมรักษาให้หายขาดได้หรือไม่? หลายคนสงสัยว่า “ข้อเข่าเสื่อมรักษาหายขาดได้ไหม?” คำตอบคือ แม้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ 100% แต่สามารถบรรเทาอาการและชะลอการเสื่อมได้ หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด   แนวทางการรักษาข้อเข่าเสื่อมแบบไม่ต้องผ่าตัด 1. การฝังเข็ม การฝังเข็มโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวดมากเกินไป 2. การรับประทานอาหารเสริม อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบสำคัญ เช่น: คอลลาเจนไทป์ 2 โปรตีโอไกลแคน แมกนีเซียม ช่วยฟื้นฟูข้อเข่าและลดอาการปวดได้ 3. การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น ว่ายน้ำ หลีกเลี่ยงท่าทางที่กดทับข้อเข่ามากเกินไป การป้องกันไม่ให้ข้อเข่าเสื่อมรุนแรงขึ้น รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ออกกำลังกายสม่ำเสมอแต่ไม่หักโหม หลีกเลี่ยงการนั่งพับเพียบหรือนั่งยองๆ สวมรองเท้าที่เหมาะสม

Read More »
รวมกลุ่มอาหารบำรุงกระดูกและข้อ กินแล้วดีต่อ "โรคกระดูกพรุน"

รวมกลุ่มอาหารบำรุงกระดูกและข้อ กินแล้วดีต่อ “โรคกระดูกพรุน”

โรคกระดูกพรุนเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพของผู้สูงอายุและผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ทำให้กระดูกบางลง เปราะ และแตกหักง่าย บางคนถึงขั้นกระดูกหักเพียงแค่ไอแรงๆ หรือเพียงแค่ขยับร่างกาย การรักษากระดูกพรุนมีหลายวิธี แต่การป้องกันด้วยอาหารถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุด บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับกลุ่มอาหารที่มีประโยชน์อย่างมากในการบำรุงกระดูกและข้อต่อ ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการของโรคกระดูกพรุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรคกระดูกพรุนคืออะไร ทำไมต้องให้ความสำคัญ? กระดูกพรุน (Osteoporosis) คือภาวะที่มวลกระดูกลดลงและโครงสร้างกระดูกเสื่อมลง ทำให้กระดูกบางและเปราะบาง เสี่ยงต่อการแตกหักแม้จากแรงกระแทกเพียงเล็กน้อย โรคนี้มักไม่แสดงอาการในระยะแรก จนกระทั่งกระดูกหักหรือเกิดการยุบตัวของกระดูกสันหลัง สถิติพบว่า 1 ใน 3 ของผู้หญิงและ 1 ใน 5 ของผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 50 ปี มีความเสี่ยงที่จะเกิดกระดูกหักจากกระดูกพรุนในช่วงชีวิตที่เหลือ ในประเทศไทย พบว่ามีผู้ป่วยกระดูกพรุนมากถึง 3 ล้านคน และประมาณว่ามีผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงอีกกว่า 10 ล้านคน ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดกระดูกพรุน ได้แก่: อายุที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพศหญิง โดยเฉพาะหลังหมดประจำเดือน รูปร่างผอมบาง น้ำหนักตัวน้อย ประวัติครอบครัวเป็นกระดูกพรุน การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ขาดการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีไม่เพียงพอ อาหารบำรุงกระดูกและข้อที่ช่วยป้องกันกระดูกพรุน 1. อาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม แคลเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่สุดในการสร้างและบำรุงกระดูก ร่างกายไม่สามารถผลิตแคลเซียมได้เอง

Read More »
ปวดสะโพกร้าวลงขา: วิธีหายปวดโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยหลักการทานยา

ปวดสะโพกร้าวลงขา: วิธีหายปวดโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยหลักการทานยา

อาการปวดสะโพกร้าวลงขา เป็นปัญหาที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก หลายคนต้องทนทุกข์กับอาการนี้มาเป็นเวลานาน บางรายถึงขั้นเดินแทบไม่ได้ นอนไม่หลับ และมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลงอย่างมาก แต่ก็ยังมีความหวัง เพราะมีวิธีการรักษาที่สามารถบรรเทาอาการและช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด สาเหตุของอาการปวดสะโพกร้าวลงขา อาการปวดสะโพกร้าวลงขามักเกิดจากการกดทับของเส้นประสาทบริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอว สาเหตุที่พบบ่อยได้แก่: หมอนรองกระดูกเสื่อมหรือปลิ้น กระดูกสันหลังเสื่อม โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ ภาวะกล้ามเนื้อหลังอักเสบ อาการที่พบ ผู้ป่วยมักมีอาการดังต่อไปนี้: ปวดร้าวจากสะโพกลงไปตามขา รู้สึกชาหรือเสียวแปลบตามขา อ่อนแรงที่ขาหรือเท้า ปวดมากขึ้นเมื่อนั่งหรือยืนนานๆ มีอาการปวดแสบปวดร้อน นอนไม่หลับเพราะความเจ็บปวด การรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด แม้ว่าหลายคนอาจคิดว่าการผ่าตัดเป็นทางออกเดียว แต่ความจริงแล้วมีวิธีการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัดที่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในวิธีที่ได้ผลดีคือการรับประทานยาอย่างถูกวิธี โดยใช้หลักการทานยา “ให้ครบ ให้ถูก ให้ถึง” ดังนี้   1.ให้ครบ: รับประทานยาให้ครบทุกชนิดตามที่แพทย์สั่ง ซึ่งอาจประกอบด้วย: ยาแก้ปวดพาราเซตามอล ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวดเส้นประสาท 2.ให้ถูก: รับประทานยาให้ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์ ทั้งในแง่ของขนาดยา เวลา และวิธีการรับประทาน นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อตับและไต รวมถึงความเหมาะสมกับโรคที่เป็น 3.ให้ถึง: รับประทานยาในขนาดที่เพียงพอต่อการรักษาโรค ไม่หยุดยาเองเมื่อรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย แต่ต้องรับประทานต่อเนื่องจนครบตามที่แพทย์กำหนด ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ มีกรณีศึกษาของผู้ป่วยที่มีอาการปวดสะโพกร้าวลงขามาเป็นเวลานานถึง 6

Read More »
หมอรักษาอาการปวดหลัง ไม่ต้องผ่าตัด

หมอซัน รักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ปวดเข่า ข้อเข่าเสื่อม แบบไม่ต้องผ่าตัด

หมอซันคือใคร หมอซัน หรือนายแพทย์อนันต์ ชาติสิริพัฒนา เป็นแพทย์วิสัญญีจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราช ผู้เชี่ยวชาญด้านการระงับความปวดและการฝังเข็ม ด้วยประสบการณ์การรักษาผู้ป่วยหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ปวดหลัง ปวดสะโพกร้าวลงขา ปวดเข่า ข้อเข่าเสื่อม ปวดคอบ่าไหล่ กระดูกคอเสื่อม และโรคปวดเรื้อรัง ประสบการณ์การรักษามากกว่า 20,000 เคส ใน 8 ปีที่ผ่านมา ความเชี่ยวชาญของหมอซัน แพทย์วิสัญญีศิริราช ผู้เชี่ยวชาญระงับปวด ผู้เชี่ยวชาญการฝังเข็มรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ประสบการณ์รักษาผู้ป่วยหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทและข้อเข่าเสื่อม 20,000+ เคส ผู้ติดตามทุกแพลตฟอร์ม 800,000+ คน ได้รับการยอมรับจากผู้นำธุรกิจและเซเลบริตี้ชั้นนำ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเป็นภาวะที่หมอนรองกระดูกที่อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละชิ้นเสื่อมสลายหรือเปลี่ยนรูปร่าง จนไปกดทับเส้นประสาทที่อยู่ใกล้เคียง หมอซันสามารถรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด อาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทที่หมอซันรักษาได้: ปวดหลังร้าวลงขา อาการชาตามขา ขาอ่อนแรง เดินไม่มั่นคง ปวดมากขึ้นเมื่อไอหรือจาม ปวดลดลงเมื่อนั่งหรือโน้มตัวไปข้างหน้า ข้อเข่าเสื่อม ข้อเข่าเสื่อมเป็นภาวะที่กระดูกอ่อนที่หุ้มผิวข้อต่อในเข่าสึกหรอ ทำให้กระดูกเสียดสีกันโดยตรง ก่อให้เกิดการอักเสบ ปวด และบวม หมอซัน ประสบการณ์รักษาข้อเข่าเสื่อม โดยไม่ต้องผ่าตัด อาการข้อเข่าเสื่อมที่หมอซันรักษาได้: ปวดเข่าเมื่อลุกนั่ง เดินขึ้นลงบันไดลำบาก เข่าติด

Read More »
อาการปวดคอบ่าไหล่ 7 สาเหตุหลักที่คุณอาจไม่เคยรู้

อาการปวดคอบ่าไหล่ 7 สาเหตุหลักที่คุณอาจไม่เคยรู้

คุณเคยรู้สึกปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า และไหล่หรือไม่? หากคำตอบคือใช่ คุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่ประสบปัญหานี้ อาการปวดคอบ่าไหล่เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุคที่เราต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า นอกจากท่าทางการทำงานที่ไม่ถูกต้องแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้เกิดอาการปวดคอบ่าไหล่? วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ 7 สาเหตุหลักของอาการปวดคอบ่าไหล่ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนกัน 1. การนอนท่าไม่ถูกต้อง           หลายคนอาจคิดว่าการนอนเป็นเวลาพักผ่อนของร่างกาย แต่หารู้ไม่ว่าท่านอนที่ไม่ถูกต้องก็สามารถเป็นสาเหตุของอาการปวดคอบ่าไหล่ได้เช่นกัน การนอนโดยใช้หมอนที่สูงหรือแข็งเกินไปอาจทำให้กล้ามเนื้อคอและบ่าตึงตัว นำไปสู่อาการปวดเมื่อตื่นนอน วิธีแก้ไข: เลือกใช้หมอนที่มีความสูงพอเหมาะ รองรับส่วนโค้งของคอได้ดี และพยายามนอนในท่าที่ช่วยให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรง 2. ความเครียดและความวิตกกังวล           ความเครียดไม่เพียงแต่ส่งผลต่อสุขภาพจิตเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อร่างกายด้วย เมื่อเรารู้สึกเครียดหรือวิตกกังวล กล้ามเนื้อมักจะเกร็งตัวโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะบริเวณคอและบ่า ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้ วิธีแก้ไข: ฝึกการผ่อนคลายความเครียด เช่น การทำสมาธิ การฝึกหายใจลึก ๆ หรือการออกกำลังกายเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ 3. การขาดการออกกำลังกาย  

Read More »
ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้น: กินอย่างไรให้หายปวดและหลีกเลี่ยงการผ่าตัด

ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้น: กินอย่างไรให้หายปวดและหลีกเลี่ยงการผ่าตัด

อาการปวดจากกระดูกทับเส้นประสาท เป็นปัญหาที่พบบ่อยและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก หลายคนมักพึ่งพายาแก้ปวดเป็นทางออกแรก แต่การใช้ยาอย่างไม่ถูกต้องอาจไม่ช่วยบรรเทาอาการ และอาจนำไปสู่การผ่าตัดที่ไม่จำเป็น บทความนี้จะแนะนำวิธีการใช้ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้นอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้หายปวดและลดโอกาสต้องผ่าตัด หลักการสำคัญในการใช้ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้น อาการนี้เกิดขึ้นเมื่อกระดูกสันหลังหรือหมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพ ทำให้กดทับเส้นประสาท ส่งผลให้เกิดอาการปวด ชา หรือรู้สึกอ่อนแรงตามแขนหรือขา ซึ่งการทานยาตามหลัก “ให้ครบ ให้ถูก ให้ถึง” เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยบรรเทาความปวดหายแบบยั่งยืน และลดโอกาสการผ่าตัด: ให้ครบ: ใช้ยาแก้ปวดให้ครอบคลุมทุกกลไกการเกิดอาการปวด ให้ถูก: เลือกชนิดและขนาดยาที่เหมาะสมกับอาการและสภาพร่างกายของผู้ป่วย ให้ถึง: ใช้ยาในปริมาณที่เพียงพอต่อการบรรเทาอาการปวด   ยาแก้ปวดที่ควรใช้ในการรักษากระดูกทับเส้น พาราเซตามอล: ช่วยลดอาการปวดและลดไข้ เป็นยาพื้นฐานที่ค่อนข้างปลอดภัย ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs: เช่น ไอบูโพรเฟน นาโพรเซน ช่วยลดการอักเสบและบรรเทาปวด แต่ต้องระวังผลข้างเคียงต่อกระเพาะอาหารและไต ยาคลายกล้ามเนื้อ: ช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อที่มักเกิดร่วมกับอาการปวดจากกระดูกทับเส้น ยาแก้ปวดเส้นประสาท: เช่น กาบาเพนติน พรีกาบาลิน ช่วยบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากการระคายเคืองของเส้นประสาท ข้อควรระวังในการใช้ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้น หลีกเลี่ยงการใช้ยาสเตียรอยด์เป็นประจำ เนื่องจากมีผลข้างเคียงสูง ระวังการใช้ยาในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคตับ ไม่ควรใช้ยาในขนาดเท่าเดิมเป็นเวลานานโดยไม่ปรึกษาแพทย์ วิธีการใช้ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้นให้ได้ผลดี เริ่มจากยาพื้นฐานอย่างพาราเซตามอล

Read More »
ยารักษาเข่าเสื่อม: ทางเลือกในการบรรเทาอาการและชะลอการเสื่อม

ยารักษาเข่าเสื่อม: ทางเลือกในการบรรเทาอาการและชะลอการเสื่อม

โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ อาการสำคัญ คือ ปวดเข่า ข้อฝืด เคลื่อนไหวลำบาก ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต การรักษาด้วยยาเป็นหนึ่งในแนวทางเพื่อบรรเทาอาการและชะลอการเสื่อมของข้อเข่า ยารักษาเข่าเสื่อมมีหลายประเภท แต่ละชนิดมีกลไกการออกฤทธิ์แตกต่างกัน ดังนี้ ยาแก้ปวดและลดการอักเสบ (NSAIDs) ยากลุ่มนี้ช่วยลดอาการปวดและการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ยาทาเฉพาะที่ ยาทาบริเวณเข่าช่วยบรรเทาอาการปวดได้โดยตรง และมีผลข้างเคียงน้อยกว่ายาชนิดรับประทาน เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง อาหารเสริมบำรุงกระดูกและข้อ เช่น อาหารเสริม DrSUN4in1 ประกอบด้วยส่วนผสมสำคัญ ได้แก่: – คอลลาเจนไทป์ 2: ช่วยบำรุงกระดูกอ่อนในข้อเข่า – โปรติโอไกลแคน: ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ข้อเข่า ทำให้ข้อเข่ามีความชุ่มชื้น – แมกนีเซียม: ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเกร็ง ผู้ป่วยหลายรายที่ทานอาหารเสริมที่ถูกต้องและต่อเนื่อง รายงานว่าอาการปวดเข่าและการเคลื่อนไหวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บางรายสามารถกลับมาวิ่งหรือออกกำลังกายได้อีกครั้ง   นอกจากการใช้ยา การรักษาเข่าเสื่อมแบบองค์รวม ยังมีความสำคัญ เช่น: การควบคุมน้ำหนัก เพื่อลดแรงกดทับบนข้อเข่า การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า การทำกายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูการทำงานของข้อเข่า การใช้อุปกรณ์ช่วยพยุง เช่น ไม้เท้า

Read More »
หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท: เข้าใจปัญหา พร้อมแนวทางการรักษาที่ยั่งยืน

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท: เข้าใจปัญหา พร้อมแนวทางการรักษาที่ยั่งยืน

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องนั่งเป็นเวลานาน หรือผู้ที่ต้องยกของหนักเป็นประจำ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า อาการนี้สามารถรักษาและป้องกันได้ด้วยวิธีที่ยั่งยืน? ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” อย่างละเอียด พร้อมแนะนำวิธีการรักษาที่จะช่วยให้คุณกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทคืออะไร? หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า “ภาวะหมอนรองกระดูกเคลื่อน” (Herniated Disc) เกิดขึ้นเมื่อหมอนรองกระดูกสันหลังซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกันกระแทกระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อ เกิดการเสื่อมสภาพหรือได้รับบาดเจ็บ ทำให้เนื้อเยื่อด้านในของหมอนรองกระดูกดันตัวออกมา และไปกดทับเส้นประสาทบริเวณใกล้เคียง ส่งผลให้เกิดอาการปวด ชา หรืออ่อนแรงตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย สาเหตุของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อายุที่เพิ่มขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น หมอนรองกระดูกจะเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ การยกของหนัก: การยกของในท่าที่ไม่ถูกต้องหรือยกของที่มีน้ำหนักมากเกินไป พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม: การนั่งหรือยืนในท่าที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน น้ำหนักตัวมากเกินไป: ภาวะอ้วนทำให้กระดูกสันหลังต้องรับน้ำหนักมากขึ้น การสูบบุหรี่: ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงหมอนรองกระดูกได้น้อยลง ทำให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น อุบัติเหตุ: การได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังโดยตรง อาการของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท อาการของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิดปัญหาและระดับความรุนแรง แต่อาการที่พบได้บ่อยมีดังนี้: ปวดหลังหรือปวดคอ: อาการปวดอาจรุนแรงขึ้นเมื่อเคลื่อนไหว ชาหรือรู้สึกเสียวซ่าตามแขนหรือขา กล้ามเนื้ออ่อนแรง: อาจมีปัญหาในการยกของหรือเดิน ปวดร้าวลงขา (Sciatica): หากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท Sciatic ปัญหาการควบคุมการขับถ่าย: ในกรณีที่รุนแรง

Read More »
ความจริงที่ควรรู้เกี่ยวกับกระดูกคอเสื่อม วิธีรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด

ความจริงที่ควรรู้เกี่ยวกับกระดูกคอเสื่อม วิธีรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด

หลายคนที่เผชิญกับอาการปวดคอเรื้อรัง ชาแขน หรือปวดศีรษะท้ายทอยบ่อย ๆ อาจไม่ทราบว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังประสบอยู่คือ “กระดูกคอเสื่อม” ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในผู้ที่อายุมากกว่า 40 ปี หรือแม้แต่วัยทำงานที่ต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน อาการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการทำงานและกิจวัตรประจำวัน แต่ยังทำให้หลายคนกังวลเรื่องความรุนแรงของโรค กลัวว่าจะต้องผ่าตัด หรือเป็นอัมพาต บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ และที่สำคัญคือ วิธีรักษากระดูกคอเสื่อมแบบไม่ต้องผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพ กระดูกคอเสื่อมคืออะไร กระดูกคอเสื่อม (Cervical Spondylosis) เป็นภาวะที่เกิดจากการเสื่อมตามอายุของกระดูกสันหลังส่วนคอและโครงสร้างรอบข้าง ได้แก่ หมอนรองกระดูก ข้อต่อ และเอ็นรอบคอ เมื่อหมอนรองกระดูกเริ่มเสื่อม จะเกิดการโป่งออกมากดทับเส้นประสาทหรือไขสันหลัง ส่งผลให้เกิดอาการปวดและอักเสบของกล้ามเนื้อรอบคอ อาการที่พบบ่อยของกระดูกคอเสื่อม ได้แก่: ปวดคอเรื้อรัง โดยเฉพาะตอนเช้าหรือหลังนั่งทำงานนาน ขยับคอลำบาก มีอาการคอติดหรือแข็ง อาการชา อ่อนแรง หรือเสียวซ่าร้าวลงแขนและมือ ปวดศีรษะท้ายทอย เสียงแกรกเมื่อหมุนคอ เดินลำบากในกรณีที่มีการกดทับไขสันหลัง สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของกระดูกคอเสื่อม การเข้าใจสาเหตุของกระดูกคอเสื่อมจะช่วยให้เราป้องกันและรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สาเหตุหลักและปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่: อายุที่เพิ่มขึ้น: พบมากในผู้ที่อายุมากกว่า 40 ปี โดยสถิติแสดงว่ามากกว่า 85% ของผู้ที่อายุเกิน 60 ปีจะมีรอยโรคในภาพถ่ายรังสี

Read More »
ปวดสลักเพชร พบหมอรักษาเมื่อไรดี ดูแลอย่างไรโดยไม่ต้องผ่าตัด

ปวดสลักเพชร พบหมอรักษาเมื่อไรดี ดูแลอย่างไรโดยไม่ต้องผ่าตัด

หลายคนคงเคยสงสัยว่า ทำไมบางครั้งปวดก้นหรือสะโพกแล้วปวดร้าวลงขาไปด้วย โดยเฉพาะเมื่อนั่งนานๆ หรือเปลี่ยนท่าทาง อาการนี้อาจเป็น “ปวดสลักเพชร” หรือที่แพทย์เรียกว่า Piriformis Syndrome ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยแต่มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโรคอื่น สำหรับผู้ที่กำลังเจ็บปวดและกังวลว่าต้องผ่าตัดหรือไม่ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ และวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด พร้อมทั้งแนะนำเมื่อไหร่ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม ปวดสลักเพชรคืออะไร ปวดสลักเพชร หรือ Piriformis Syndrome เกิดจากกล้ามเนื้อ Piriformis ที่อยู่ลึกในบริเวณสะโพกหดเกร็งหรือหนาตัว จนไปกดทับเส้นประสาท Sciatic ที่วิ่งผ่านใต้กล้ามเนื้อนี้ ทำให้เกิดอาการปวดและชาลงไปตามขา อาการที่พบบ่อยของปวดสลักเพชร ได้แก่: ปวดลึกบริเวณแก้มก้นหรือสะโพก ปวดร้าวลงขา อาจมีอาการชาหรือเหมือนมียุบยิบตามขา เจ็บชัดเจนเมื่องกดบริเวณสะโพก อาการปวดมากขึ้นเมื่อนั่งนาน เปลี่ยนท่าทาง หรือยืดกล้ามเนื้อก้น คลำพบก้อนเล็กๆ บริเวณก้น (ในบางราย) ข้อต่อสะโพกเคลื่อนไหวได้น้อยลง ความแตกต่างสำคัญระหว่างปวดสลักเพชรกับหมอนรองกระดูกทับเส้นก็คือ ปวดสลักเพชรเกิดจากกล้ามเนื้อกดทับ ไม่ใช่หมอนรองกระดูกเคลื่อนออกจากตำแหน่ง สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง การเกิดปวดสลักเพชรมีสาเหตุหลากหลาย โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันและการใช้งานร่างกาย: การนั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน โดยเฉพาะบนพื้นผิวแข็ง การใช้งานกล้ามเนื้อสะโพกมากเกินไป เช่น การวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือการออกกำลังกายหนัก ออฟฟิศซินโดรม จากการนั่งทำงานโต๊ะในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง

Read More »
อาการปวดคอร้าวไปไหล่เกิดจากอะไร? สาเหตุและวิธีการรักษา

ปวดคอบ่าไหล่ทำไงดี? เลือกวิธีรักษาที่เหมาะกับคุณ โดยไม่ต้องผ่าตัด

หากคุณกำลังเผชิญกับอาการปวดคอบ่าไหล่ที่รบกวนการทำงานและชีวิตประจำวัน คุณไม่ได้อยู่คนเดียว อาการนี้เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้เวลานานในการนั่งทำงาน หรือใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ การปวดคอบ่าไหล่ไม่ใช่แค่ความเจ็บปวดธรรมดา แต่เป็นสัญญาณที่ร่างกายส่งมาเตือนว่ากล้ามเนื้อและข้อต่อของเราต้องการการดูแล หากปล่อยทิ้งไว้ อาการอาจลุกลามจนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก นอนไม่หลับ และขาดประสิทธิภาพในการทำงาน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุของอาการปวดคอบ่าไหล่ รวมถึงวิธีการรักษาที่หลากหลาย ตั้งแต่การฝังเข็มแบบผสมผสาน การใช้ยาอย่างเหมาะสม ไปจนถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อให้คุณสามารถเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมที่สุดกับตัวคุณเองได้ อาการปวดคอบ่าไหล่คืออะไร? อาการปวดคอบ่าไหล่เป็นความไม่สบายหรือเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบริเวณกล้ามเนื้อ ข้อต่อ เส้นเอ็น หรือเส้นประสาทรอบคอ บ่า และไหล่ ซึ่งเชื่อมโยงกันเป็นระบบเดียว เมื่อส่วนหนึ่งมีปัญหา มักจะส่งผลกระทบไปยังบริเวณอื่นๆ ด้วย กลไกการเกิดอาการส่วนใหญ่มาจากการใช้งานหรือการจัดท่าทางที่ไม่เหมาะสมกับสรีระ เช่น การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การยกของในท่าที่ผิด หรือการนอนด้วยหมอนที่ไม่รองรับคอเท่าที่ควร สิ่งเหล่านี้ทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นรอบคอไหล่ต้องทำงานหนัก เกิดการเกร็งและอักเสบตามมา อาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยปวดคอบ่าไหล่: ปวดตึงหรือเจ็บร้าวบริเวณคอ บ่า และไหล่ เคลื่อนไหวคอหรือไหล่ได้จำกัด หันหน้าไปด้านข้างลำบาก กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง มีจุดกดเจ็บเฉพาะที่ อาการชาหรือเจ็บร้าวลงไปตามแขน (ในบางราย) ปวดศีรษะร่วมด้วย โดยเฉพาะบริเวณท้ายทอย รู้สึกเมื่อยล้าบริเวณบ่าไหล่ตลอดเวลา สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของการปวดคอบ่าไหล่ การเข้าใจสาเหตุของอาการปวดคอบ่าไหล่จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและรักษาได้อย่างตรงจุด ปัจจัยเสี่ยงหลักที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ได้แก่: การจัดท่าทางไม่ถูกต้อง –

Read More »
ทำความเข้าใจ "ปวดเอวเรื้อรัง" ปัญหาสุขภาพที่มักถูกมองข้าม

ทำความเข้าใจ “ปวดเอวเรื้อรัง” ปัญหาสุขภาพที่มักถูกมองข้าม

หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังทุกข์ทรมานจาก “ปวดเอวเรื้อรัง” มาอย่างยาวนาน ลองมาทำความเข้าใจสาเหตุและวิธีการรักษาที่ตรงจุดโดยไม่ต้องผ่าตัดไปกับหมอซันกันค่ะ ทำความเข้าใจ “ปวดเอวเรื้อรัง” ปัญหาสุขภาพที่มักถูกมองข้าม “ปวดเอวเรื้อรัง” เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานออฟฟิศที่ต้องนั่งนานๆ หรือผู้ที่มีลักษณะการทำงานที่ใช้กล้ามเนื้อหลังอย่างไม่ถูกต้อง หลายคนอาจคิดว่าเป็นเพียงอาการปวดชั่วคราวที่ทานยาแก้ปวดก็หาย แต่คุณรู้หรือไม่ว่า อาการปวดเอวเรื้อรังที่ปล่อยไว้ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้ คุณหมอซันเข้าใจถึงความทุกข์ทรมานของผู้ที่มีอาการปวดเอวเรื้อรัง เป็นอย่างดี จากประสบการณ์การรักษาคนไข้มากกว่า 18,000+ เคส หมอซันเห็นคนไข้จำนวนมากที่ต้องทนทุกข์กับอาการปวดเรื้อรังมานานหลายปี และพยายามรักษามาทุกวิธีแต่ไม่หาย สาเหตุของอาการ “ปวดเอวเรื้อรัง” ที่คุณควรรู้ อาการ ปวดเอวเรื้อรัง สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยที่พบบ่อยมี 3 สาเหตุหลัก ดังนี้: 1. เกี่ยวกับหมอนรองกระดูกและกระดูกสันหลัง ปัญหาเรื่อง หมอนรองกระดูกเสื่อม หรือ หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท เป็นสาเหตุหลักของอาการปวดเอวเรื้อรังที่พบบ่อย เมื่อกระดูกสันหลังเสื่อมและขาดความมั่นคง อาจทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อนไปกดทับเส้นประสาท ส่งผลให้มีอาการปวดร้าวลงขา หรือมีอาการชาร่วมด้วย หลายคนที่มีปัญหานี้มักถูกแนะนำให้ผ่าตัด แต่คุณหมอซันมีวิธีการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัดที่ได้ผลจริง 2. เกิดจากกล้ามเนื้อหลังผิดปกติ ท่าทางการเคลื่อนไหว อิริยาบถที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงานเป็นเวลานาน การยกของหนักอย่างไม่ถูกวิธี หรือการใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ ล้วนทำให้เกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อหลัง และเป็นสาเหตุของอาการ ปวดเอวเรื้อรัง

Read More »