บทความ

วิธีรักษาปวดหลังจากกระดูกทับเส้นในผู้สูงอายุ โดยไม่ต้องผ่าตัด

เทคนิค! รักษากระดูกทับเส้น ไม่ต้องผ่าตัด ด้วยวิธีรักษาแบบธรรมชาติ

สาเหตุของอาการปวดหลังจากกระดูกทับเส้นในผู้สูงอายุ กระดูกทับเส้น หรือโรคกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท (Spinal Stenosis) มักเกิดจากกระบวนการเสื่อมตามอายุที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยมีสาเหตุหลักๆ ดังนี้: กระดูกสันหลังเสื่อม เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกสันหลังเกิดการเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ หมอนรองกระดูกเสื่อม หรือ หมอนรองกระดูกปลิ้น ทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาท โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ ทำให้มีพื้นที่สำหรับเส้นประสาทน้อยลง กระดูกงอก เกิดการงอกของกระดูกบริเวณข้อต่อกระดูกสันหลัง พังผืดหนาตัว ทำให้เกิดการกดเบียดเส้นประสาท อาการที่พบได้บ่อยนอกจาก ปวดหลัง แล้ว ยังมีอาการ ปวดสะโพกร้าวลงขา ชา อ่อนแรง รู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าช็อต หรือ ปวดสลักเพชร ในบางราย อาการจะรุนแรงขึ้นเมื่อยืนหรือเดินนานๆ และจะทุเลาเมื่อนั่งหรือนอนพัก ทางเลือกในการรักษาปวดหลังจากกระดูกทับเส้นโดยไม่ต้องผ่าตัด การรักษาแบบไม่ผ่าตัด หรือการรักษาแบบประคับประคอง (Conservative Treatment) มีประสิทธิภาพสูงในการบรรเทาอาการ ปวดหลัง จาก กระดูกทับเส้น ในผู้สูงอายุ โดยวิธีการรักษาที่ได้ผลดีมีดังนี้: 1. การฝังเข็มแบบบูรณาการ การฝังเข็มเป็นศาสตร์การรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับผู้ป่วย ปวดหลัง จาก กระดูกทับเส้น โดยเฉพาะเทคนิคการฝังเข็มแบบบูรณาการที่ผสมผสานศาสตร์การแพทย์แผนตะวันตกและตะวันออก การฝังเข็มช่วยในการ: บรรเทาอาการปวดอย่างรวดเร็ว ลดการอักเสบบริเวณที่มีการกดทับเส้นประสาท

Read More »
กระดูกทับเส้นปวดทรมาน? 15 อาหารต้านการอักเสบที่หมอไม่เคยบอก

กระดูกทับเส้นปวดทรมาน? 15 อาหารต้านการอักเสบที่หมอไม่เคยบอก

เมื่อความปวดกลายเป็นภาระของคนที่เรารัก หากคุณเป็นลูกที่รักในคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังทนทุกข์ทรมานกับอาการปวดเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็น ปวดเข่า, ปวดหลัง, หมอนรองกระดูกทับเส้น, หรือ ข้อเข่าเสื่อม บทความนี้อาจเป็นหนทางช่วยเหลือที่คุณตามหาอยู่ จากประสบการณ์การรักษาผู้ป่วยมากกว่า 20,000 เคส หมอซันพบว่า อาหารต้านการอักเสบ มีบทบาทสำคัญในการลดอาการปวดและการอักเสบในร่างกาย วันนี้จึงขอแบ่งปัน 15 เมนู อาหารต้านการอักเสบ ที่ช่วยให้คนที่คุณรักกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อีกครั้ง ทำความเข้าใจ: อาหารต้านการอักเสบคืออะไร? อาหารต้านการอักเสบ หมายถึง อาหารที่มีสารประกอบธรรมชาติซึ่งสามารถลดกระบวนการอักเสบในร่างกาย (Anti-inflammatory) โดยตรง อาหารประเภทนี้ช่วย: ลดการผลิตสารก่อการอักเสบ เช่น Cytokines และ Prostaglandins เพิ่มการผลิตสารต้านการอักเสบตามธรรมชาติ ลดระดับ C-reactive protein (CRP) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้การอักเสบในเลือด ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายจากการอักเสบ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง อาหารต้านการอักเสบ มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการอักเสบเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบ โรคข้อเข่าเสื่อม หรือปัญหาหมอนรองกระดูกเสื่อม วิทยาศาสตร์เบื้องหลังการอักเสบและอาการปวด การอักเสบเป็นกลไกการป้องกันตามธรรมชาติของร่างกาย แต่เมื่อเกิดขึ้นเป็นเวลานาน (การอักเสบเรื้อรัง) จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ การอักเสบเรื้อรังเป็นสาเหตุหลักของ: โรคข้อเข่าเสื่อม

Read More »
5 ท่าบริหารคอง่ายๆ ทำได้เองที่บ้าน ป้องกันโรคกระดูกคอเสื่อม

5 ท่าบริหารคอง่ายๆ ทำได้เองที่บ้าน ป้องกันโรคกระดูกคอเสื่อม

เหนื่อยมากไหม? กับการตื่นมาปวดคอทุกวัน ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรหนัก คุณเคยมีอาการแบบนี้บ้างไหม? ตื่นเช้ามาคอแข็ง หันซ้ายหันขวาไม่ได้ นั่งทำงานแป้บเดียว คอก็เริ่มปวดร้าว หันหลังมองรถข้างหลัง แล้วรู้สึกเจ็บแปลบ นอนไม่หลับ เพราะคอและบ่าปวด ปวดคอร้าวไปถึงแขน บางครั้งมือยังชาอีกด้วย หากคุณมีอาการเหล่านี้ แสดงว่าคุณกำลังเสี่ยงต่อ โรคกระดูกคอเสื่อม มากกว่าที่คิด วันนี้เราจะแชร์ 5 ท่าบริหารคอ ที่ง่ายและได้ผลจริง ซึ่งใช้เวลาแค่วันละ 15 นาที แต่สามารถ ลดอาการปวดคอ ได้อย่างเห็นผล พร้อมป้องกันไม่ให้กระดูกคอเสื่อมก่อนวัย ทำไมต้องบริหารคอ? เมื่อโรคกระดูกคอเสื่อมกำลังคุกคามคนรุ่นใหม่ สถิติที่น่าตกใจ: คนไทย 7 ใน 10 คน มีปัญหาเรื่องปวดคอ อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยโรคกระดูกคอเสื่อมลดลงเหลือ 35-40 ปี (เคยเป็น 50-60 ปี) ผู้ที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ มีความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกคอเสื่อมสูงถึง 80% ใครบ้างที่เสี่ยงต่อปัญหาปวดคอและกระดูกคอเสื่อม? กลุ่มเสี่ยงสูง: นักเรียน นักศึกษา ที่ก้มอ่านหนังสือหรือมือถือเป็นเวลานาน เจ้าหน้าที่ออฟฟิส ที่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ 8+

Read More »
บอกลา ปวดคอบ่าไหล่ ออฟฟิศซินโดรม ด้วย 5 วิธีนี้

บอกลา ปวดคอบ่าไหล่ ออฟฟิศซินโดรม ด้วย 5 วิธีนี้

สาเหตุของปวดคอบ่าไหล่จากออฟฟิศซินโดรม ก่อนจะเข้าสู่วิธีการแก้ไข เรามาทำความเข้าใจสาเหตุของอาการปวดคอบ่าไหล่จากออฟฟิศซินโดรมกันก่อน: อิริยาบถที่ไม่เหมาะสม – การนั่งหลังค่อม ก้มคอมองคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน กล้ามเนื้อทำงานหนักเกินไป – กล้ามเนื้อคอและบ่าต้องทำงานหนักเพื่อรองรับน้ำหนักศีรษะในท่าที่ไม่เหมาะสม การไหลเวียนของเลือดลดลง – เมื่อนั่งนิ่งนานๆ การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อคอและบ่าลดลง ความเครียด – ความเครียดจากการทำงานทำให้กล้ามเนื้อเกร็ง ความเสื่อมของกระดูกคอ – อาการปวดคอบ่าไหล่เรื้อรังอาจเกิดจากกระดูกคอเสื่อมหรือหมอนรองกระดูกคอเสื่อม 5 วิธีบอกลาปวดคอบ่าไหล่ ออฟฟิศซินโดรม 1. ปรับอิริยาบถการนั่งทำงานให้ถูกต้อง การนั่งทำงานที่ถูกต้องช่วยลดแรงกดทับที่คอและบ่าได้มาก: จัดความสูงของจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ระดับสายตา นั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิงรองรับหลังส่วนล่าง วางแขนให้พักบนที่วางแขนหรือโต๊ะอย่างสบาย เว้นระยะห่างจากจอประมาณ 50-70 เซนติเมตร หมั่นลุกเดินเปลี่ยนอิริยาบถทุก 30-45 นาที จากการดูแลคนไข้ หมอพบว่าเพียงแค่ปรับท่านั่งให้ถูกต้อง คนไข้หลายรายอาการดีขึ้นถึง 30-40% โดยไม่ต้องพึ่งยาหรือการรักษาใดๆ 2. บริหารคอและบ่าด้วยท่าง่ายๆ ระหว่างวัน การบริหารคอและบ่าระหว่างวันช่วยคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งและเพิ่มการไหลเวียนเลือด: ท่าหมุนคอ: หมุนคอช้าๆ เป็นวงกลมทั้งตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกา 5-10 รอบ ท่ายักไหล่: ยกไหล่ขึ้นค้างไว้ 3 วินาที แล้วปล่อย ทำซ้ำ

Read More »
โรคหลอดเลือดสมอง (สโตรก) เงียบแต่ร้ายแรง: 7 สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

โรคหลอดเลือดสมอง (สโตรก) : 7 สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

คุณรู้หรือไม่ว่า โรคหลอดเลือดสมอง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “สโตรก” เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ของโลก และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิด อัมพฤกษ์อัมพาต ที่เปลี่ยนชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวไปตลอดกาล ข้อมูลล่าสุดจากองค์การอนามัยโลกเผยว่า ทุกปีมีผู้ป่วย โรคหลอดเลือดสมอง เกิดใหม่ทั่วโลกมากถึง 10-15 ล้านคน ในจำนวนนี้ 5 ล้านคนเสียชีวิต และอีก 5 ล้านคนกลายเป็นคนพิการอย่างถาวร สำหรับประเทศไทย สถิติจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า โรคหลอดเลือดสมอง เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ในเพศชาย และอันดับ 2 ในเพศหญิง ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจและต้องการความตระหนักรู้อย่างจริงจัง แต่ข่าวดีคือ… หากคุณรู้วิธีสังเกตสัญญาณเตือนและป้องกันอย่างถูกต้อง คุณสามารถลดความเสี่ยงจาก สโตรก ได้มากถึง 80%! ประเภทของโรคหลอดเลือดสมองที่คุณต้องรู้ 1. โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันเฉียบพลัน (Ischemic Stroke)  สโตรก ชนิดนี้เป็นประเภทที่พบมากที่สุด เกิดจากหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงสมองตีบหรืออุดตัน ทำให้สมองขาดออกซิเจนและเสียหายอย่างถาวร สาเหตุหลักของสโตรคชนิดเส้นเลือดตีบ: โรคความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้รับการรักษา โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ดี ไขมันในเลือดสูง (คอเลสเตอรอล) การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โรคหัวใจ โดยเฉพาะภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะเลือดข้นผิดปกติ

Read More »
อาการปวดสะโพกร้าวลงขา: วิธีการทานยาเพื่อบรรเทาอาการอย่างมีประสิทธิภาพ

อาการปวดสะโพกร้าวลงขา: วิธีการทานยาเพื่อบรรเทาอาการอย่างมีประสิทธิภาพ

อาการปวดสะโพกร้าวลงขา เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก หลายคนที่มีอาการปวดสะโพกร้าวลงขาต้องทนกับความเจ็บปวดทุกวัน บางครั้งแม้แต่การนอนหลับก็ยังรู้สึกทรมาน การเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็อาจทำให้เกิดความเจ็บปวดรุนแรง หากคุณกำลังประสบปัญหาปวดสะโพกร้าวลงขา บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการทานยาที่ถูกต้องเพื่อบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สาเหตุของอาการปวดสะโพกร้าวลงขา อาการปวดสะโพกร้าวลงขามักเกิดจากปัญหาที่กระดูกสันหลังหรือเส้นประสาทที่เกี่ยวข้อง สาเหตุทั่วไปได้แก่: หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กระดูกทับเส้นประสาท หมอนรองกระดูกเสื่อม โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ ปัญหาเกี่ยวกับข้อสะโพก ผู้ที่มีอาการปวดสะโพกร้าวลงขาจะรู้สึกเจ็บปวดบริเวณสะโพกและมีอาการปวดร้าวลงไปตามขา บางคนอาจมีอาการชา เสียวแปลบ หรือรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าช็อตร่วมด้วย อาการเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก การรักษาอาการปวดสะโพกร้าวลงขาด้วยยา การรักษาอาการปวดสะโพกร้าวลงขาด้วยยาเป็นทางเลือกแรกที่แพทย์มักแนะนำ โดยมีหลักการสำคัญคือ “ให้ครบ ให้ถูก ให้ถึง” เพื่อให้หายปวดได้จริง มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยต่อร่างกาย 1. ยาแก้ปวดพื้นฐาน ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นยาพื้นฐานที่ช่วยบรรเทาอาการปวดได้ในระดับหนึ่ง แต่มักไม่เพียงพอสำหรับอาการปวดสะโพกร้าวลงขาที่รุนแรง วิธีการทานยา: ทานครั้งละ 500-1000 มิลลิกรัม ทานทุก 4-6 ชั่วโมงเมื่อมีอาการปวด ไม่ควรทานเกิน 4000 มิลลิกรัมต่อวัน ควรทานหลังอาหารเพื่อลดการระคายเคืองกระเพาะ 2. ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ยากลุ่มนี้ช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้ดีสำหรับอาการปวดสะโพกร้าวลงขา วิธีการทานยา: ควรทานพร้อมอาหารหรือนมเพื่อป้องกันการระคายเคืองกระเพาะ ไม่ควรทานติดต่อกันเป็นเวลานานเกิน 1-2 สัปดาห์โดยไม่ปรึกษาแพทย์

Read More »
สลักเพชรจม (Spondylolisthesis) อาการ สาเหตุ และวิธีรักษาแบบละเอียด

สลักเพชรจม (Spondylolisthesis) อาการ สาเหตุ และวิธีรักษาแบบละเอียด

หากคุณกำลังประสบปัญหาปวดหลังเรื้อรัง โดยเฉพาะบริเวณเอวส่วนล่าง มีอาการปวดร้าวลงขา และอาการแย่ลงเมื่อยืนหรือเดินนานๆ คุณอาจกำลังเผชิญกับภาวะ “สลักเพชรจม” บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้อย่างละเอียด พร้อมแนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพ สลักเพชรจมคืออะไร? สลักเพชรจม หรือในทางการแพทย์เรียกว่า Spondylolisthesis เป็นภาวะที่กระดูกสันหลังส่วนล่างเกิดการเลื่อนเคลื่อนไปด้านหน้า ทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาท ส่งผลให้เกิดอาการปวดและความไม่สบายในหลายรูปแบบ ภาวะนี้พบได้บ่อยในผู้สูงอายุและนักกีฬาที่ต้องใช้หลังมาก อาการของสลักเพชรจมที่ต้องรู้ 1. อาการปวดหลังส่วนล่าง ปวดบริเวณเอวส่วนล่างอย่างต่อเนื่อง อาการปวดจะรุนแรงขึ้นเมื่อยืนหรือเดินนานๆ บางครั้งอาจรู้สึกปวดตึงบริเวณกล้ามเนื้อน่องร่วมด้วย อาการปวดมักทุเลาลงเมื่อนั่งหรือนอนพัก 2. อาการปวดร้าวลงขา มีอาการชาหรือปวดแผ่ลงไปที่สะโพก อาการปวดร้าวลงไปตามขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง บางรายอาจมีอาการเหมือนไฟช็อตร่วมด้วย อาการชาอาจรุนแรงจนถึงปลายเท้า 3. อาการเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว เดินลำบากหรือเดินไม่ไกล ขาอ่อนแรง โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินขึ้นบันได การทรงตัวไม่ดีเหมือนเดิม รู้สึกไม่มั่นคงเวลาเดิน 4. อาการที่แย่ลงเมื่อ ยืนหรือเดินนานๆ ยกของหนัก ก้มหรือเงยมากเกินไป บิดตัวหรือเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว สาเหตุของการเกิดสลักเพชรจม 1. สาเหตุจากพันธุกรรม ความผิดปกติของกระดูกสันหลังแต่กำเนิด มีประวัติครอบครัวเป็นสลักเพชรจม โครงสร้างกระดูกสันหลังที่ผิดปกติ 2. สาเหตุจากการใช้งาน การยกของหนักเป็นประจำ การเล่นกีฬาที่ต้องแอ่นหลังบ่อยๆ การทำงานที่ต้องก้มๆ เงยๆ ตลอดเวลา

Read More »
อาหารต้านการอักเสบ 15 เมนูเด็ด! ช่วยให้หายปวด ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไป

กระดูกทับเส้นกินอะไรดี? 15 เมนูอาหารต้านการอักเสบ ช่วยลดปวดเรื้อรัง ไม่ต้องทนทรมาน

ปวดหลังกระดูกทับเส้น แก้ได้ด้วยอาหารใช่หรือไม่? หลายคนที่มีอาการ กระดูกทับเส้น หรือ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท มักสงสัยว่า กระดูกทับเส้นกินอะไรดี เพื่อช่วยลดอาการปวดและการอักเสบ หมอซันได้ศึกษาและรวบรวมข้อมูลจากงานวิจัยล่าสุด พบว่าอาหารบางประเภทช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้จริง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการบรรเทาอาการ ปวดหลังกระดูกทับเส้น 15 เมนูอาหารต้านการอักเสบ สำหรับคนป่วยกระดูกทับเส้น 1. ซุปฟักทองนุ่มอุ่น ซุปฟักทอง อุ่นๆ ชามนี้มีเบต้าแคโรทีนสูง งานวิจัยพบว่าช่วยลดการอักเสบในกระดูกอ่อนได้จริง เหมาะสำหรับคนที่มีอาการ ปวดเข่า หรือ ข้อเข่าเสื่อม 2. ปลาแซลมอนนึ่งมะนาว โอเมก้า-3 ในปลาแซลมอนช่วยลดอาการปวดในผู้ป่วย โรคข้อเข่าเสื่อม และ กระดูกทับเส้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. โยเกิร์ตกรีกผสมเบอร์รี่สด โปรไบโอติกและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการอักเสบทั้งในระบบย่อยอาหารและข้อต่อ 4. ข้าวต้มปลา อาหารไทยๆ ที่งานวิจัยชี้ชัดว่าการกินปลาเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของ โรคข้อเสื่อม ได้ 5. สลัดผักใบเขียวกับอะโวคาโด  ช่วยลดระดับสารบ่งชี้การอักเสบในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วย หมอนรองกระดูกเสื่อม 6. ไข่ตุ๋นกับผักโขม โปรตีนคุณภาพสูงผสมกับสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อและลดการอักเสบ 7. ชาเขียวอุ่น (ไม่ใส่น้ำตาล) 

Read More »
ปวดเข่า กินอะไรดี?

ปวดเข่า กินอะไรดี?

หากคุณกำลังทุกข์ทรมานจากอาการปวดเข่า คุณไม่ได้เผชิญปัญหานี้เพียงลำพัง เพราะอาการปวดเข่าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุและคนที่มีน้ำหนักเกิน นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้ว การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดเข่าได้อย่างได้ผล มาดูกันว่าเมื่อปวดเข่า เราควรกินอะไรดี อาหารแนะนำสำหรับคนปวดเข่า   1. ปลาที่มีไขมันดี อาการปวดเข่ามักมาพร้อมกับการอักเสบ การทานปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 สูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน จะช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดเข่าได้เป็นอย่างดี 2. ผักใบเขียวเข้ม เมื่อมีอาการปวดเข่า การทานผักใบเขียวเข้มอย่างผักคะน้า ผักโขม และบร็อคโคลี่ จะช่วยเสริมแคลเซียมและวิตามินดีที่จำเป็นต่อการบำรุงกระดูกและข้อต่อ ช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดเข่าได้ 3. ถั่วและเมล็ดพืช อัลมอนด์ วอลนัท และเมล็ดเจีย อุดมไปด้วยโปรตีนและแร่ธาตุที่จำเป็น ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อรอบข้อเข่าที่เสื่อมสภาพ บรรเทาอาการปวดเข่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. ผลไม้รสเปรี้ยว วิตามินซีในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม กีวี่ และเบอร์รี่ต่างๆ ช่วยสร้างคอลลาเจนที่จำเป็นต่อการบำรุงข้อเข่า ลดอาการปวดเข่าและการอักเสบได้ 5. ขิงและขมิ้น สมุนไพรไทยอย่างขิงและขมิ้นมีสารต้านการอักเสบตามธรรมชาติ ช่วยบรรเทาอาการปวดเข่าได้ดี สามารถนำมาทำเป็นชาหรือเครื่องเทศในอาหารได้ อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อปวดเข่า อาหารทอด ขนมกรุบกรอบ ที่มีไขมันทรานส์สูง ขนมหวาน

Read More »
โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท รักษานานแค่ไหนถึงจะหาย?

โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท รักษานานแค่ไหนถึงจะหาย?

หากคุณกำลังทุกข์ทรมานจากอาการปวดหลัง ร้าวลงขา และสงสัยว่าเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท คำถามที่มักพบบ่อยคือ “รักษานานแค่ไหนถึงจะหาย?” บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยทั้งหมดเกี่ยวกับระยะเวลาการรักษาและทางเลือกในการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณ ระยะเวลาการรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เรื่องที่น่ายินดีคือ ผู้ป่วยโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทประมาณ 85-90% มีโอกาสหายได้เองโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 6-12 สัปดาห์ในการฟื้นตัว ทั้งนี้ระยะเวลาการรักษาจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น: ความรุนแรงของอาการ อายุของผู้ป่วย สภาพร่างกายโดยรวม การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ วิธีการรักษาที่เลือกใช้ อาการที่บ่งบอกว่าคุณเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ผู้ป่วยมักมีอาการสำคัญดังต่อไปนี้: ปวดหลังส่วนล่างอย่างรุนแรง มีอาการปวดร้าวลงขาตามแนวเส้นประสาท มีอาการชาตามขาหรือเท้า กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง เคลื่อนไหวลำบาก โดยเฉพาะการงอหลัง อาการปวดเพิ่มขึ้นเมื่อไอ จาม หรือนั่งนานๆ สัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบแพทย์ทันที แม้ว่าโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนใหญ่จะสามารถรักษาได้ แต่มีบางอาการที่ถือเป็นสัญญาณอันตราย ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน: มีไข้ร่วมกับอาการปวดหลัง มีอาการชาบริเวณทวารหนัก (saddle anesthesia) อาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ปวดรุนแรงในเวลากลางคืนหรือขณะพัก มีประวัติโรคมะเร็งหรือกระดูกพรุน แนวทางการรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท 1. การรักษาแบบไม่ผ่าตัด (ระยะเวลา 6-12 สัปดาห์) การรักษาในระยะแรกมักเริ่มด้วยวิธีอนุรักษ์นิยม ประกอบด้วย: การพักการใช้งานหลังอย่างเหมาะสม การรับประทานยาแก้ปวดและลดการอักเสบ

Read More »
อาหารเสริมสำหรับกระดูกคอเสื่อม: จำเป็นจริงหรือ? และควรเลือกอย่างไร

อาหารเสริมสำหรับกระดูกคอเสื่อม: จำเป็นจริงหรือ? และควรเลือกอย่างไร

หากคุณกำลังมีอาการปวดคอเรื้อรัง ชาร้าวลงแขน หรือมีปัญหาในการเคลื่อนไหวคอ คุณอาจกำลังเผชิญกับภาวะ กระดูกคอเสื่อม โดยไม่รู้ตัว ภาวะกระดูกคอเสื่อมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนวัยทำงานและผู้สูงอายุ ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก คำถามที่หลายคนสงสัยคือ “อาหารเสริมสามารถช่วยบรรเทาอาการกระดูกคอเสื่อมได้จริงหรือไม่?” และ “ควรเลือกอาหารเสริมประเภทไหนที่เหมาะกับภาวะกระดูกคอเสื่อม?” บทความนี้จะให้คำตอบที่คุณกำลังมองหา เข้าใจภาวะกระดูกคอเสื่อมให้ถ่องแท้ก่อนเลือกวิธีรักษา กระดูกคอเสื่อม หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า Cervical Spondylosis เป็นภาวะที่กระดูกสันหลังส่วนคอเกิดการเสื่อมสภาพตามอายุหรือจากการใช้งานที่ผิดท่าเป็นเวลานาน เมื่อเกิดภาวะกระดูกคอเสื่อม จะส่งผลให้หมอนรองกระดูกบางลง ข้อต่อเสื่อมสภาพ และอาจมีการงอกของกระดูกเพื่อชดเชย (กระดูกงอก) ซึ่งอาจกดทับเส้นประสาทและไขสันหลัง ทำให้เกิดอาการปวด ชา อ่อนแรง และจำกัดการเคลื่อนไหว อาการของกระดูกคอเสื่อมที่พบบ่อย: ปวดคอเรื้อรัง โดยเฉพาะเวลาตื่นนอน อาการปวดร้าวลงไปที่บ่า ไหล่ หรือแขน ชาหรือรู้สึกเสียวซ่าที่นิ้วมือ กล้ามเนื้อแขนอ่อนแรง มีเสียงกรอบแกรบเวลาขยับคอ ปวดศีรษะด้านหลัง เวียนศีรษะเมื่อหมุนคอ หากคุณมีอาการเหล่านี้ การพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก นอกจากการรักษาหลักแล้ว อาหารเสริมอาจเป็นทางเลือกในการช่วยฟื้นฟูและชะลอการเสื่อมของกระดูกคอได้ อาหารเสริมมีบทบาทอย่างไรในการจัดการกับกระดูกคอเสื่อม? การรักษากระดูกคอเสื่อมแบบองค์รวมประกอบด้วยหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทำกายภาพบำบัด การฝังเข็ม การรับประทานยา การปรับเปลี่ยนท่าทางในชีวิตประจำวัน และในบางกรณีอาจต้องผ่าตัด อาหารเสริมเป็นอีกหนึ่งวิธีที่อาจช่วยเสริมการรักษาและบรรเทาอาการได้ อาหารเสริมไม่ใช่ยาปฏิชีวนะที่จะรักษากระดูกคอเสื่อมให้หายขาดได้ทันที แต่สารอาหารบางชนิดสามารถช่วยในกระบวนการซ่อมแซม ลดการอักเสบ

Read More »
วิธีรักษาปวดหลังจากกระดูกทับเส้นในผู้สูงอายุ โดยไม่ต้องผ่าตัด

วิธีรักษาอาการปวดหลังจาก “กระดูกทับเส้น” โดยไม่ต้องผ่าตัด

สาเหตุของอาการปวดหลังจากกระดูกทับเส้นในผู้สูงอายุ กระดูกทับเส้น หรือโรคกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท (Spinal Stenosis) มักเกิดจากกระบวนการเสื่อมตามอายุที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยมีสาเหตุหลักๆ ดังนี้: กระดูกสันหลังเสื่อม เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกสันหลังเกิดการเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ หมอนรองกระดูกเสื่อม หรือ หมอนรองกระดูกปลิ้น ทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาท โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ ทำให้มีพื้นที่สำหรับเส้นประสาทน้อยลง กระดูกงอก เกิดการงอกของกระดูกบริเวณข้อต่อกระดูกสันหลัง พังผืดหนาตัว ทำให้เกิดการกดเบียดเส้นประสาท อาการที่พบได้บ่อยนอกจาก ปวดหลัง แล้ว ยังมีอาการ ปวดสะโพกร้าวลงขา ชา อ่อนแรง รู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าช็อต หรือ ปวดสลักเพชร ในบางราย อาการจะรุนแรงขึ้นเมื่อยืนหรือเดินนานๆ และจะทุเลาเมื่อนั่งหรือนอนพัก ทางเลือกในการรักษาปวดหลังจากกระดูกทับเส้นโดยไม่ต้องผ่าตัด การรักษาแบบไม่ผ่าตัด หรือการรักษาแบบประคับประคอง (Conservative Treatment) มีประสิทธิภาพสูงในการบรรเทาอาการ ปวดหลัง จาก กระดูกทับเส้น ในผู้สูงอายุ โดยวิธีการรักษาที่ได้ผลดีมีดังนี้: 1. การฝังเข็มแบบบูรณาการ การฝังเข็มเป็นศาสตร์การรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับผู้ป่วย ปวดหลัง จาก กระดูกทับเส้น โดยเฉพาะเทคนิคการฝังเข็มแบบบูรณาการที่ผสมผสานศาสตร์การแพทย์แผนตะวันตกและตะวันออก การฝังเข็มช่วยในการ: บรรเทาอาการปวดอย่างรวดเร็ว ลดการอักเสบบริเวณที่มีการกดทับเส้นประสาท

Read More »