บทความ

สัญญาณเตือน อาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท: รู้ก่อน รักษาทัน

10 สัญญาณเตือนก่อนเกิดอาการปวดสลักเพชรที่ควรรู้

อาการปวดสลักเพชร หรือที่หลายคนเรียกว่า “ปวดเส้นประสาทไซแอติก” เป็นความเจ็บปวดที่สามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างมาก แต่รู้หรือไม่ว่า ก่อนที่อาการจะรุนแรงจนทำให้เราทรมาน มักมีสัญญาณเตือนล่วงหน้าที่เราควรสังเกต วันนี้คุณหมอจะมาแนะนำ 10 สัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกว่าคุณกำลังจะเผชิญกับอาการปวดสลักเพชร เพื่อให้คุณสามารถป้องกันและรักษาได้ทันท่วงที 1. ปวดตื้อๆ บริเวณหลังส่วนล่าง อาการปวดตื้อๆ ที่หลังส่วนล่างอาจเป็นสัญญาณแรกของปัญหาสลักเพชร โดยเฉพาะถ้าความเจ็บปวดนั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่หายไปแม้จะพักผ่อน 2. รู้สึกชาหรือเสียวซ่าที่ขาหรือเท้า หากคุณเริ่มรู้สึกชาหรือเสียวซ่าบริเวณขาหรือเท้า โดยเฉพาะด้านหลังของขาลงไปถึงปลายเท้า นี่อาจเป็นสัญญาณว่าเส้นประสาทไซแอติกกำลังถูกกดทับ 3. ปวดร้าวลงขาข้างเดียว อาการปวดที่เริ่มจากสะโพกและร้าวลงไปตามขาข้างเดียว เป็นลักษณะเฉพาะของอาการปวดสลักเพชร ถ้าคุณสังเกตเห็นอาการแบบนี้ ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ 4. อ่อนแรงที่ขาหรือเท้า ถ้าคุณรู้สึกว่าขาหรือเท้าของคุณอ่อนแรงลง หรือมีปัญหาในการเคลื่อนไหว นี่อาจเป็นสัญญาณว่าเส้นประสาทไซแอติกกำลังถูกกดทับและส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ 5. ปวดมากขึ้นเมื่อนั่งนานๆ การนั่งเป็นเวลานานมักทำให้อาการปวดสลักเพชรแย่ลง ถ้าคุณสังเกตว่าตัวเองเริ่มรู้สึกไม่สบายมากขึ้นเมื่อต้องนั่งนานๆ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม 6. ปวดเมื่อไอหรือจาม อาการปวดที่รุนแรงขึ้นเมื่อไอหรือจาม เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของปัญหาสลักเพชร เนื่องจากการเคลื่อนไหวกะทันหันนี้อาจกดทับเส้นประสาทมากขึ้น 7. ปวดเมื่อเปลี่ยนท่าทาง หากคุณรู้สึกปวดมากขึ้นเมื่อต้องเปลี่ยนท่าทาง เช่น จากท่านั่งเป็นท่ายืน หรือเมื่อต้องก้มตัว นี่อาจเป็นสัญญาณว่าเส้นประสาทไซแอติกของคุณกำลังมีปัญหา 8. นอนไม่หลับเพราะปวด อาการปวดที่รบกวนการนอนหลับของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณรู้สึกปวดมากขึ้นเมื่อนอนราบ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสลักเพชรที่กำลังจะเกิดขึ้น

Read More »
ปวดหลัง แบบไหนอันตราย? สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

ปวดหลังแบบไหนอันตราย? 5 สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม แนะนำโดยหมอรักษาอาการปวดหลัง

คุณรู้หรือไม่ว่าการ ปวดหลัง บางลักษณะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรง? หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องทนทุกข์กับอาการปวดหลัง ไม่ว่าจะเป็นปวดหลังเรื้อรัง ปวดหลังร้าวลงขา หรือปวดหลังที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน บทความนี้จะช่วยให้คุณแยกแยะได้ว่าอาการ ปวดหลัง แบบไหนที่ถือว่าอันตรายและต้องรีบพบหมอรักษาอาการปวดหลัง ปัญหาการ ปวดหลัง เป็นภาวะที่พบบ่อยในคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานและผู้สูงอายุ หลายคนมองว่าการ ปวดหลัง เป็นเรื่องปกติ แต่หากหมอรักษาอาการปวดหลังที่มีความเชี่ยวชาญอย่างหมอซันแนะนำว่า การ ปวดหลัง บางลักษณะต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน และดีที่สุดคือการรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด ปวดหลัง 5 สัญญาณเตือนที่อันตรายจริง 1. ปวดหลังร้าวลงขา – สัญญาณหมอนรองกระดูกทับเส้น อาการปวดหลังที่มีการร้าวลงไปที่สะโพกหรือขา เป็นสัญญาณอันตรายของภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ซึ่งพบบ่อยในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้ที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน สัญญาณที่ต้องระวัง: ปวดหลังร้าวลงขาพร้อมอาการชา รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มแทงที่ขา อาการปวดหลังรุนแรงขึ้นเมื่อไฟ จาม หรือเบ่งถ่าย หมอรักษาอาการปวดหลังผู้เชี่ยวชาญอย่างหมอซันแนะนำว่า หากมีอาการนี้ควรได้รับการรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันการเสียหายถาวรของเส้นประสาท 2. ปวดหลังรุนแรงหลังอุบัติเหตุ การปวดหลังอย่างรุนแรงหลังจากได้รับอุบัติเหตุ เช่น ตกจากที่สูง หรือประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ถือเป็นสัญญาณเตือนที่อันตรายมาก เนื่องจากอาจมีกระดูกสันหลังแตกหัก ข้อสังเกต: ปวดหลังทันทีหลังอุบัติเหตุ ปวดรุนแรงไม่ทุเลาแม้จะพักผ่อน

Read More »
To Do List ถ้ารู้ตัวว่ากำลังเป็นกระดูกทับเส้น

กระดูกทับเส้น: To Do List เมื่อรู้ตัวว่ากำลังเป็นโรคนี้ (รู้ก่อน รักษาทัน หายปวดเร็ว)

กระดูกทับเส้น: สัญญาณเตือนที่คุณไม่ควรมองข้าม คุณเคยรู้สึกปวดหลังร้าวลงขา ชาตามปลายเท้า หรือมีอาการเหน็บชาตามแขนขาโดยไม่ทราบสาเหตุหรือไม่? นี่อาจเป็นสัญญาณแรกของ “กระดูกทับเส้น” ภาวะที่หากปล่อยไว้ไม่รักษา อาจนำไปสู่ความเจ็บปวดเรื้อรังและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก บทความนี้จะเป็น To Do List สำหรับผู้ที่กำลังเผชิญกับอาการกระดูกทับเส้น เพื่อให้คุณรู้ว่าควรทำอะไรบ้างเมื่อเริ่มมีอาการ พร้อมแนวทางการรักษาที่ได้ผลจริงโดยไม่ต้องผ่าตัด เข้าใจให้ถ่องแท้: กระดูกทับเส้นคืออะไรกันแน่? กระดูกทับเส้น หรือที่แพทย์เรียกว่า “กระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท” เป็นภาวะที่โครงสร้างกระดูกสันหลังมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทที่ออกมาจากกระดูกสันหลัง สาเหตุอาจเกิดจาก: หมอนรองกระดูกเสื่อม หรือปลิ้นออกมากดทับเส้นประสาท โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ ทำให้พื้นที่สำหรับเส้นประสาทลดลง กระดูกงอกเกิน (Bone Spur) ที่เกิดจากการเสื่อมของกระดูกสันหลัง ข้อต่อกระดูกสันหลังเสื่อม ทำให้เกิดการกดทับรากประสาท อาการที่บ่งชี้ว่าคุณอาจมีภาวะกระดูกทับเส้น หากคุณมีอาการต่อไปนี้ 2-3 ข้อขึ้นไป นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังมีภาวะ กระดูกทับเส้น: ปวดหลังร้าวลงขา หรือ ปวดคอร้าวลงแขน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่มีการกดทับ อาการชาตามแขนหรือขา โดยเฉพาะเวลาอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานๆ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ในแขนหรือขาข้างที่มีอาการชา อาการปวดแย่ลงเมื่อไอ จาม หรือเบ่งถ่าย ปวดมากขึ้นเมื่อนั่งหรือยืนนานๆ แต่บรรเทาลงเมื่อนอนพัก รู้สึกเหน็บชา หรือ

Read More »
4 พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดอาการปวดคอโดยไม่รู้ตัว

4 พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดอาการปวดคอโดยไม่รู้ตัว

ทำความเข้าใจกับอาการปวดคอที่คุกคามคนยุคใหม่ อาการปวดคอกำลังกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานและผู้ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นประจำ หลายคนอาจคิดว่าอาการปวดคอเป็นเพียงความเมื่อยล้าธรรมดาที่เกิดขึ้นชั่วคราวและหายได้เองเมื่อได้พักผ่อน แต่ความจริงแล้ว อาการปวดคอที่เกิดขึ้นซ้ำๆ หรือเรื้อรัง อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงกว่าที่คิด คุณหมอซัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาอาการปวดคอ ที่มีประสบการณ์รักษาผู้ป่วยมากกว่า 18,000 ราย ได้เตือนว่า พฤติกรรมหลายอย่างในชีวิตประจำวันที่เราทำเป็นประจำโดยไม่รู้ตัว อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการปวดคอ และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงขึ้น เช่น กระดูกคอเสื่อม หมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาท หรือกระดูกคอเคลื่อน ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 4 พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดอาการปวดคอโดยไม่รู้ตัว พร้อมทั้งวิธีป้องกันและแก้ไขที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้าน รวมถึงแนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด 4 พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดอาการปวดคอโดยไม่รู้ตัว 1. การก้มหน้าใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเป็นเวลานาน ในยุคดิจิทัลที่ทุกคนมีสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต การก้มหน้าใช้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นเวลานานเป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อยมาก จากการศึกษาพบว่า เมื่อเราก้มหน้า 15 องศา น้ำหนักที่กดทับกระดูกคอจะเพิ่มขึ้นเป็น 12 กิโลกรัม และเมื่อก้มหน้า 60 องศา น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเป็น 27 กิโลกรัม ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงกดทับกระดูกคอถึง 5-6 เท่าของน้ำหนักศีรษะปกติ การก้มหน้าใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเป็นเวลานานจะทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า “Text Neck” หรือ “คอสมาร์ทโฟน” ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอาการปวดคอในคนยุคปัจจุบัน

Read More »
ปวดเข่า ข้อเข่าเสื่อม ทานอะไรดี? 10 เมนูอาหารเด็ด ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้

ปวดเข่า ข้อเข่าเสื่อม ทานอะไรดี? 10 อาหารเด็ด ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้

คุณกำลังต่อสู้กับปวดเข่าที่ทรมานมาหลายเดือนหรือหลายปีแล้วหรือไม่? การมีเข่าเสื่อมทำให้ทุกการเคลื่อนไหวกลายเป็นความทรมาน? บทความนี้จะมาบอกเล่าเกี่ยวกับอาหารที่มีพลังลึกลับในการบรรเทาอาการปวดเข่าและช่วยฟื้นฟูเข่าเสื่อมให้กลับมาใช้งานได้ดีขึ้น ทำไมอาหารจึงเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาปวดเข่า? หลายคนที่มีปวดเข่าจากเข่าเสื่อมมักคิดว่าจำเป็นต้องพึ่งยาแก้ปวดหรือการผ่าตัดเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว อาหารที่เราทานทุกวันมีบทบาทสำคัญมากในการลดอาการปวดเข่าและชะลอการเสื่อมของข้อเข่า เข่าเสื่อมเกิดจากกระดูกอ่อนที่หุ้มข้อเข่าสึกหรอลงจนบาง ทำให้เกิดการอักเสบและปวดเข่า การเลือกอาหารที่มีสารต้านการอักเสบและสารอาหารที่ช่วยบำรุงกระดูกอ่อน จะช่วยลดอาการปวดเข่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ 10 อาหารเด็ดลดปวดเข่า ฟื้นฟูเข่าเสื่อม 1. ปลาทะเลไขมันดี – อาหารต้านการอักเสบ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน เป็นอาหารที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นสารต้านการอักเสบธรรมชาติที่ช่วยลดอาการปวดเข่าจากเข่าเสื่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีทาน: รับประทานอาหารปลาเหล่านี้อย่างน้อยสัปดาหะละ 3 ครั้ง โดยเลือกวิธีการปรุงแบบนึ่งหรือย่าง เพื่อคงคุณค่าของโอเมก้า 3 2. ผักใบเขียวเข้ม – อาหารธรรมชาติบำรุงข้อเข่า ผักคะน้า ผักโขม และบร็อกโคลี เป็นอาหารที่เต็มไปด้วยวิตามินซี วิตามินเค และสารต้านออกซิเดชัน ที่ช่วยซ่อมแซมกระดูกอ่อนและลดอาการปวดเข่าจากเข่าเสื่อม เคล็ดลับ: ทำอาหารผักใบเขียวให้หลากหลาย เช่น สลัดสดๆ หรือปั่นเป็นน้ำผักสมูทตี้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน 3. เบอร์รี่หลากสี – อาหารต้านอนุมูลอิสระ บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ และแบล็กเบอร์รี่

Read More »
หมอรักษาอาการปวดหลัง ไม่ต้องผ่าตัด

หมอซัน รักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ปวดเข่า ข้อเข่าเสื่อม แบบไม่ต้องผ่าตัด

หมอซันคือใคร หมอซัน หรือนายแพทย์อนันต์ ชาติสิริพัฒนา เป็นแพทย์วิสัญญีจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราช ผู้เชี่ยวชาญด้านการระงับความปวดและการฝังเข็ม ด้วยประสบการณ์การรักษาผู้ป่วยหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ปวดหลัง ปวดสะโพกร้าวลงขา ปวดเข่า ข้อเข่าเสื่อม ปวดคอบ่าไหล่ กระดูกคอเสื่อม และโรคปวดเรื้อรัง ประสบการณ์การรักษามากกว่า 20,000 เคส ใน 8 ปีที่ผ่านมา ความเชี่ยวชาญของหมอซัน แพทย์วิสัญญีศิริราช ผู้เชี่ยวชาญระงับปวด ผู้เชี่ยวชาญการฝังเข็มรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ประสบการณ์รักษาผู้ป่วยหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทและข้อเข่าเสื่อม 20,000+ เคส ผู้ติดตามทุกแพลตฟอร์ม 800,000+ คน ได้รับการยอมรับจากผู้นำธุรกิจและเซเลบริตี้ชั้นนำ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเป็นภาวะที่หมอนรองกระดูกที่อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละชิ้นเสื่อมสลายหรือเปลี่ยนรูปร่าง จนไปกดทับเส้นประสาทที่อยู่ใกล้เคียง หมอซันสามารถรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด อาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทที่หมอซันรักษาได้: ปวดหลังร้าวลงขา อาการชาตามขา ขาอ่อนแรง เดินไม่มั่นคง ปวดมากขึ้นเมื่อไอหรือจาม ปวดลดลงเมื่อนั่งหรือโน้มตัวไปข้างหน้า ข้อเข่าเสื่อม ข้อเข่าเสื่อมเป็นภาวะที่กระดูกอ่อนที่หุ้มผิวข้อต่อในเข่าสึกหรอ ทำให้กระดูกเสียดสีกันโดยตรง ก่อให้เกิดการอักเสบ ปวด และบวม หมอซัน ประสบการณ์รักษาข้อเข่าเสื่อม โดยไม่ต้องผ่าตัด อาการข้อเข่าเสื่อมที่หมอซันรักษาได้: ปวดเข่าเมื่อลุกนั่ง เดินขึ้นลงบันไดลำบาก เข่าติด

Read More »
ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้น: กินอย่างไรให้หายปวดและหลีกเลี่ยงการผ่าตัด

ยารักษา กระดูกทับเส้น: กินอย่างไรให้หายปวดและหลีกเลี่ยงการผ่าตัด

อาการปวดจากกระดูกทับเส้นประสาท เป็นปัญหาที่พบบ่อยและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก หลายคนมักพึ่งพายาแก้ปวดเป็นทางออกแรก แต่การใช้ยาอย่างไม่ถูกต้องอาจไม่ช่วยบรรเทาอาการ และอาจนำไปสู่การผ่าตัดที่ไม่จำเป็น บทความนี้จะแนะนำวิธีการใช้ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้นอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้หายปวดและลดโอกาสต้องผ่าตัด หลักการสำคัญในการใช้ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้น อาการนี้เกิดขึ้นเมื่อกระดูกสันหลังหรือหมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพ ทำให้กดทับเส้นประสาท ส่งผลให้เกิดอาการปวด ชา หรือรู้สึกอ่อนแรงตามแขนหรือขา ซึ่งการทานยาตามหลัก “ให้ครบ ให้ถูก ให้ถึง” เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยบรรเทาความปวดหายแบบยั่งยืน และลดโอกาสการผ่าตัด: ให้ครบ: ใช้ยาแก้ปวดให้ครอบคลุมทุกกลไกการเกิดอาการปวด ให้ถูก: เลือกชนิดและขนาดยาที่เหมาะสมกับอาการและสภาพร่างกายของผู้ป่วย ให้ถึง: ใช้ยาในปริมาณที่เพียงพอต่อการบรรเทาอาการปวด   ยาแก้ปวดที่ควรใช้ในการรักษากระดูกทับเส้น พาราเซตามอล: ช่วยลดอาการปวดและลดไข้ เป็นยาพื้นฐานที่ค่อนข้างปลอดภัย ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs: เช่น ไอบูโพรเฟน นาโพรเซน ช่วยลดการอักเสบและบรรเทาปวด แต่ต้องระวังผลข้างเคียงต่อกระเพาะอาหารและไต ยาคลายกล้ามเนื้อ: ช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อที่มักเกิดร่วมกับอาการปวดจากกระดูกทับเส้น ยาแก้ปวดเส้นประสาท: เช่น กาบาเพนติน พรีกาบาลิน ช่วยบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากการระคายเคืองของเส้นประสาท ข้อควรระวังในการใช้ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้น หลีกเลี่ยงการใช้ยาสเตียรอยด์เป็นประจำ เนื่องจากมีผลข้างเคียงสูง ระวังการใช้ยาในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคตับ ไม่ควรใช้ยาในขนาดเท่าเดิมเป็นเวลานานโดยไม่ปรึกษาแพทย์ วิธีการใช้ยาแก้ปวดกระดูกทับเส้นให้ได้ผลดี เริ่มจากยาพื้นฐานอย่างพาราเซตามอล

Read More »
ปวดเข่า เข่าเสื่อม รักษาอย่างไรดี เลือกวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด

ปวดเข่า เข่าเสื่อม รักษาอย่างไรดี เลือกวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด

หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาปวดเข่าที่ทำให้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการเดินที่ช้าลง การลุกนั่งที่ลำบาก หรือแม้กระทั่งการนอนหลับที่ไม่สนิท เพราะอาการปวดที่คาราคาซัง คุณไม่ได้อยู่คนเดียว อาการปวดเข่าเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมากขึ้น หรือผู้ที่ต้องใช้งานเข่าอย่างหนัก สิ่งที่ทำให้หลายคนกังวลมากที่สุดคือความกลัวว่าจะต้องผ่าตัด ต้องนอนพักฟื้นนาน หรือไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม แต่ความจริงแล้ว ในปัจจุบันมีทางเลือกการรักษาที่หลากหลาย ทั้งการใช้ยาอย่างเป็นระบบ การฝังเข็ม และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการปวดเข่า ตั้งแต่สาเหตุ วิธีการรักษา ไปจนถึงการดูแลตัวเองที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณสามารถเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุดกับตัวคุณเอง ปวดเข่า คืออะไร ปวดเข่า อาการเจ็บปวดหรือความไม่สบายที่เกิดขึ้นบริเวณข้อต่อเข่า ซึ่งเป็นข้อต่อที่ซับซ้อนและรับน้ำหนักมากที่สุดในร่างกาย ข้อต่อเข่าประกอบด้วยกระดูกต้นขา กระดูกหน้าแข้ง กระดูกสะบ้าหัวเข่า รวมถึงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ที่ช่วยในการเคลื่อนไหว กลไกการเกิดอาการปวดเข่า มักเริ่มต้นจากการเสื่อมสลายของกระดูกอ่อนที่หุ้มปลายกระดูก เมื่อกระดูกอ่อนบางลงหรือหลุดออก จะทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างกระดูก ส่งผลให้เกิดการอักเสบ บวม และปวด อาการที่พบบ่อย ได้แก่: ปวดเข่า โดยเฉพาะขณะเคลื่อนไหวหรือใช้แรง ข้อเข่าบวม มีน้ำในข้อ รู้สึกตึงหรือติดขัดขณะงอหรือเหยียดเข่า มีเสียงก๊อบแก๊บในเข่าขณะเคลื่อนไหว ข้อเข่าอ่อนแรงหรือทรุดตัว ไม่สามารถรับน้ำหนักได้ อาการปวดรุนแรงขึ้นในตอนเช้าหรือหลังนั่งนานๆ สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของการปวดเข่า การเข้าใจสาเหตุของอาการปวดเข่าจะช่วยให้เราสามารถเลือกวิธีการรักษาและป้องกันได้อย่างเหมาะสม สาเหตุหลักที่พบบ่อย

Read More »

กระดูกคอเสื่อม ทำไงดี? 6 ท่าบริหารคลายตึง แบบไม่ต้องผ่าตัด

ความจริงแล้ว กระดูกคอเสื่อมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมาก โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี หรือคนที่ใช้คอในท่าเดิมเป็นเวลานาน แต่ข่าวดีก็คือ เราสามารถจัดการกับอาการนี้ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยวิธีการรักษาแบบผสมผสานที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงท่าบริหารง่ายๆ ที่ทำได้ที่บ้าน กระดูกคอเสื่อมคืออะไร? กระดูกคอเสื่อม หรือ Cervical Spondylosis เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อส่วนประกอบต่างๆ ของกระดูกสันหลังส่วนคอเริ่มเสื่อมตามอายุหรือการใช้งาน ได้แก่ หมอนรองกระดูก ข้อต่อ และกระดูกคอ ทำให้เกิดการอักเสบและกดทับเส้นประสาท กลไกการเกิดโรคนี้เริ่มต้นจากการที่หมอนรองกระดูกคอสูญเสียความยืดหยุ่น กระดูกคอส่วนหน้าและหลังเริ่มเสื่อม ข้อต่อและเอ็นรอบกระดูกคอมีการเปลี่ยนแปลง จนทำให้เกิดหินปูนและกระดูกงอกขึ้น ซึ่งอาจไปกดทับเส้นประสาทและไขสันหลังได้ อาการที่พบบ่อยของกระดูกคอเสื่อม ได้แก่: ปวดหและตึงบริเวณคอ คอติด ขยับคอได้ลำบาก ปวดร้าวไปที่แขน ข้อศอก หรือนิ้วมือ ชาที่แขนหรือมือ ปวดศีรษะ โดยเฉพาะบริเวณท้ายทอย กล้ามเนื้อกระตุกหรือเกร็ง มีเสียงป๊อปเมื่อขยับคอ อ่อนแรงที่แขนหรือมือ (ในกรณีที่รุนแรง) สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของกระดูกคอเสื่อม การเข้าใจสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงจะช่วยให้เราป้องกันและรักษาได้อย่างตรงจุด สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดกระดูกคอเสื่อม ได้แก่: อายุ: ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี มีความเสี่ยงสูงขึ้น เนื่องจากการเสื่อมตามธรรมชาติ การใช้งานคอในท่าที่ผิด: เช่น

Read More »
กระดูกทับเส้น ควรกินยารักษาเมื่อไรดี โดยไม่ต้องผ่าตัด

กระดูกทับเส้น ควรกินยารักษาเมื่อไรดี โดยไม่ต้องผ่าตัด

การปวดหลังร้าวลงขาที่มาจากกระดูกทับเส้นประสาท เป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก หลายคนต้องเผชิญกับความทรมานจากอาการปวดเรื้อรัง จนไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ การหาวิธีรักษาที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงการผ่าตัด จึงกลายเป็นความหวังสำคัญของผู้ป่วยจำนวนมาก บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระดูกทับเส้นประสาท วิธีการรักษาด้วยยา และแนวทางการดูแลแบบองค์รวมที่ช่วยให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการผ่าตัด กระดูกทับเส้นประสาทคืออะไร กระดูกทับเส้นประสาท หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า Herniated Nucleus Pulposus (HNP) เป็นภาวะที่เกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังหรือกระดูกเคลื่อนตัวไปกดทับเส้นประสาทบริเวณหลังหรือเอว ทำให้เส้นประสาทอักเสบและเกิดอาการปวดอย่างรุนแรง อาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยกระดูกทับเส้น ได้แก่: ปวดหลังร้าวลงขา ตามแนวเส้นประสาท ความรู้สึกชาตามขาหรือเท้า กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง ยกขาหรือเดินลำบาก อาการปวดเพิ่มขึ้นเมื่อก้มตัว นั่งนาน ไอ หรือจาม เดินนานไม่ได้ ต้องหยุดพักบ่อย ปวดมากในช่วงเช้า หรือหลังจากนอนนาน สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง การเข้าใจสาเหตุของกระดูกทับเส้น จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สาเหตุหลักที่พบบ่อย ได้แก่: หมอนรองกระดูกเสื่อมตามอายุ โดยเฉพาะในผู้ที่อายุเกิน 40 ปี การยกของหนักหรือทำท่าทางผิดซ้ำๆ ในชีวิตประจำวัน น้ำหนักตัวเกิน ทำให้กระดูกสันหลังรับน้ำหนักมากเกินไป อุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บที่บริเวณหลัง ปัจจัยทางพันธุกรรม โครงสร้างกระดูกที่ผิดปกติ นักกีฬาหรือผู้ที่ใช้แรงกายในการทำงาน การนั่งในท่าไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน ผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน กระดูกทับเส้นไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงแค่ความเจ็บปวดเท่านั้น แต่ยังรบกวนกิจวัตรในชีวิตประจำวันอย่างมาก

Read More »
ปวดหลังร้าวลงขา 5 ท่าบริหารคลายชา ลดปวด ทำเองได้ แบบไม่ต้องผ่าตัด

ปวดหลังร้าวลงขา 5 ท่าบริหารคลายชา ลดปวด ทำเองได้ แบบไม่ต้องผ่าตัด

ปวดหลังร้าวลงขา ไม่ใช่แค่คำบอกเล่า แต่เป็นความทรมานที่แทรกซึมเข้าไปในทุกอณูของชีวิต ทั้งการทำงาน การเดิน การนั่ง การนอน จนถึงคุณภาพชีวิตโดยรวม หลายคนต้องหยุดกิจกรรมกลางคันเพราะความเจ็บปวดหรืออาการชาที่แล่นร้าวลงไปถึงสะโพก น่อง หรือปลายเท้า บทความนี้จะเป็นเสมือนแผนที่นำทางที่คุณทำตามได้จริง ทั้งการทำความเข้าใจโรคอย่างถูกต้อง แนวทางรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด และ 5 ท่าบริหารที่คุณทำเองได้ที่บ้านเพื่อคลายอาการชา บรรเทาความปวด และพาคุณกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง อาการนี้คืออะไร? เข้าใจ “ปวดหลังร้าวลงขา” ให้ชัด อาการปวดหลังร้าวลงขามักเกี่ยวข้องกับการระคายเคืองหรือการกดทับของเส้นประสาทไซแอททิก เส้นประสาทใหญ่ที่ทอดยาวจากหลังลงไปตามขาทั้งสองข้าง สาเหตุที่พบบ่อยคือหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นกดทับเส้นประสาท การเสื่อมของข้อต่อกระดูกสันหลัง การหนาตัวของเอ็นหรือกระดูกงอก รวมถึงภาวะกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท หรือที่เรียกว่า Piriformis syndrome ความรู้สึกปวดที่หลังส่วนล่างหรือเอว มักเป็นๆ หายๆ แล้วปวดร้าวลงไปที่สะโพก ต้นขา น่อง หรือถึงเท้า อาการชา เสียวแปลบ คล้ายไฟช็อต หรือเป็นตะคริวที่ขา ส่วนใหญ่จะเป็นข้างเดียว บางรายมีอาการอ่อนแรง กล้ามเนื้อกระดกข้อเท้าหรือเหยียดนิ้วเท้าได้ไม่เต็มที่ เดินได้ไม่ไกล ต้องหยุดพักเพราะปวดหรือชา โดยเฉพาะเวลาแหงนตัวหรือนั่งนานๆ ความเจ็บปวดมักลามตามแนวเส้นประสาทไซแอททิก เหมือนมีเส้นความเจ็บปวดที่วิ่งลงมาตามขา สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นหรือเคลื่อน ทำให้เนื้อหมอนยื่นออกมากดทับรากประสาท กระดูกสันหลังเสื่อมตามวัย

Read More »
4 พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดอาการปวดคอโดยไม่รู้ตัว

4 พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดอาการปวดคอโดยไม่รู้ตัว

ทำความเข้าใจกับอาการปวดคอที่คุกคามคนยุคใหม่ อาการปวดคอกำลังกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานและผู้ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นประจำ หลายคนอาจคิดว่าอาการปวดคอเป็นเพียงความเมื่อยล้าธรรมดาที่เกิดขึ้นชั่วคราวและหายได้เองเมื่อได้พักผ่อน แต่ความจริงแล้ว อาการปวดคอที่เกิดขึ้นซ้ำๆ หรือเรื้อรัง อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงกว่าที่คิด คุณหมอซัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาอาการปวดคอ ที่มีประสบการณ์รักษาผู้ป่วยมากกว่า 18,000 ราย ได้เตือนว่า พฤติกรรมหลายอย่างในชีวิตประจำวันที่เราทำเป็นประจำโดยไม่รู้ตัว อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการปวดคอ และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงขึ้น เช่น กระดูกคอเสื่อม หมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาท หรือกระดูกคอเคลื่อน ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 4 พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดอาการปวดคอโดยไม่รู้ตัว พร้อมทั้งวิธีป้องกันและแก้ไขที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้าน รวมถึงแนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด 4 พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดอาการปวดคอโดยไม่รู้ตัว 1. การก้มหน้าใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเป็นเวลานาน ในยุคดิจิทัลที่ทุกคนมีสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต การก้มหน้าใช้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นเวลานานเป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อยมาก จากการศึกษาพบว่า เมื่อเราก้มหน้า 15 องศา น้ำหนักที่กดทับกระดูกคอจะเพิ่มขึ้นเป็น 12 กิโลกรัม และเมื่อก้มหน้า 60 องศา น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเป็น 27 กิโลกรัม ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงกดทับกระดูกคอถึง 5-6 เท่าของน้ำหนักศีรษะปกติ การก้มหน้าใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเป็นเวลานานจะทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า “Text Neck” หรือ “คอสมาร์ทโฟน” ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอาการปวดคอในคนยุคปัจจุบัน

Read More »